ถูกใจเพจแล้ว · 1 พฤษภาคม 2015 ·
11. นักเสแสร้งผู้ยิ่งใหญ่ (The Great Pretender)
- 11188384_347305925465788_5546239001182114978_n.jpg (87.17 KiB) เปิดดู 248 ครั้ง
ธนาคารกลางของสหรัฐฯทำQEไปแล้ว อังกฤษทำQEไปแล้ว ญี่ปุ่นและสหภาพยุโรปทำลังทำQE แล้วจะให้จีนอยู่เฉยๆ ทำเสแสร้งเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างไร?
QEคือการที่ธนาคารกลางพิมพ์เงินเข้าไปในระบบการเงินเพื่อซื้อทรัพย์สินทางการเงินออกมา เช่นพันธบัตรรัฐบาล หรือพันธบัตรในรูปแบบต่างๆ ทำให้สภาพคล่องเพิ่มขึ้นและสร้างแรงกดดันให้ดอกเบี้ยลดลง
จีนอาจจะเก็บอาการเสแสร้งไม่ยี่หระได้ไม่นาน เพราะว่าเศรษฐกิจภายในกำลังมีปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นที่มีปริมาณ$2.6ล้านล้าน ที่กำลังมีปัญหาในการชำระหนี้
ในเมื่อพวกลื้อเล่นQEได้อย่างสนุกสนาน ทำไมอั๊วขอเล่นQEให้มันมือด้วยคนไม่ได้หรือ?
ทำให้ในวันที่28 เมษายนที่ผ่านมา ทางธนาคารกลางของจีน (People's Bank of China)ประกาศว่าจะอัดฉีดสภาพคล่องเพื่อช่วยฐานะทางการเงินของรัฐบาลท้องถิ่นที่กำลังถังแตก จากการใช้เงินมหาศาลในการเนรมิตเมืองใหม่เพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองตามความฝันอันสูงสุดของจีน
แบบฉบับQEของจีนจะเน้นอุ้มฐานะการเงินของรัฐบาลท้องถิ่นที่ได้ออกบอนด์รัฐบาลท้องถิ่น (provincial bonds) ของทางสหรัฐฯจะมีตราสารการเงินคล้ายๆกันเรืียกว่า municipal bonds โดยที่ธนาคารกลางของจีนจะปล่อยกู้ให้กับธนาคารเพื่อเข้าไปซื้อพันธบัตรของรัฐบาลท้องถิ่น ไม่ว่าเร็ทติ้งจะดีหรือเลวปานใด
ธนาคารกลางของจีนจะส่งสัญญานให้แบงค์ว่า: "หลับหูหลับตาซื้อๆเข้าไปเถอะ พิมพ์เงินแจกให้ฟรีแล้ว อย่าไปคิดมาก"
สัญญานการทำQEของจีนนี้ส่อให้เห็นว่าจีนกำลังมีปัญหาเศรษฐกิจภายใน และจีดีพีที่กำลังชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าตัวเลขจีดีพีของทางการจะบอกว่าอยู่ที่7% แต่มีฝรั่งบางสำนักบอกว่าอยู่ที่3.8%
จีนเลยต้องเสแสร้งว่ายังคงยืนหยัดได้อย่างเหนี่ยวแน่นท่ามกลางเศรษฐกิจโลกและการค้าโลกที่ชะลอตัวลง
ประเด็นคือเมื่อจีนทำQEและดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำค่าหยวนให้อ่อน ประเทศต่างๆในเอเซียจะได้รับผลกระทบ คือจำเป็นต้องเดินตามรอยเท้าอาเฮีย เพราะว่าเศรษฐกิจจีนเป็นสมอหลักของเอเซีย
จะเกิดปรากฎการณ์แห่กันลดดอกเบี้ยและทำให้ค่าเงินของตัวเองอ่อนตัวลงเพื่อแข่งกันส่งออกในเอเซีย ทั้งในเกาหลีใต้ ไต้หวัน ส่วนญี่ปุ่นไม่ต้องพูดถึงทำ QEไปแล้ว$3ล้านล้าน และกดดอกเบี้ยจนแทบจะไม่เหลือช่องว่างให้ทำอะไรได้อีกยกเว้นพิมพ์เงินเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
ไทยแลนด์ไม่ต้องการน้อยหน้าใคร รีบลดดอกเบี้ยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสองนัดติดต่อกันจาก2.0%เหลือ1.50% รีบชิงลดดอกเบี้ยก่อนใครอะเกรสสิฟอย่างนี้ แสดงว่าตัวเลขเศรษฐกิจไทยแลนด์คงจะเน่าสุดๆ
ตัวเลขเน่าจริง เพราะว่าส่งออกไทยในไตรมาสแรกติดลบ4%กว่า เงินเฟ้อในไตรมาสแรกติดลบ0.5% การบริโภคภายในเดี้ยง การใช้จ่ายภาครัฐออดๆแอดๆ การลงทุนภาคเอกชนรอเมกะโปรเจ๊คอย่างเดียว ไม่งั้นไม่ทำอะไร
ทางแบงค์ชาติต๊กกะใจกันใหญ่ เหมือนเลือดเข้าตา ควานหามาตรการเพิ่มเพื่อช่วยการส่งออก เพราะว่าบาทมันแข็งไป โดยจะอนุญาตให้คนไทยขนเงินไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น
ทำให้นโยบายการเงินไทยอยู่ในโหมดลดดอกและทำให้บาทอ่อนตามสูตรตามตำรา
ดูท่าแล้วในที่สุด ประเทศไทยจะต้องเดินทางสู่นรกด้วยการทำQEกับเขาด้วยหรือไม่?
ทางฝ่ายสหรัฐฯกำลังดูเอเซียดิ้นอย่างใจจดใจจ่อ ไอเจ้งแล้วนะ แต่พวกยูกำลังจะตามมาขอเจ้งกับไอหรือ
ถ้าพวกยูต้องการอย่างนั้นได้เลย ในเดือนมิถุนายน หรือเดือนกันยายนทมิฬ ไอจะขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรก หลังจากที่กดดอกเบี้ยมาที่ระดับ0.25%มาตั้งแต่ปี2009 เพื่อทำลายการเงินของพวกยู เพราะว่าเงินดอลล่าร์ที่พวกยูกู้มาถูกๆระหว่างปี2009-2014จะต้องไหลกลับมายังศูนย์กลางการเงิน ทำให้ค่าเงินพวกยูและตลาดการเงินป่วนหนัก
พวกยูอาจจะขายของได้ราคาถูก ไอขายของไม่ได้ แต่เงินไหลกลับมาบ้านไอจะทำให้ไอยังจะพอซูซี้มั่วต่อไปได้ ค่าเงินดอลล่าร์แข็ง ค่าเงินพวกยูไหลลงอย่างไม่มีหูรูด เงินเฟ้อจะมาเคาะประตูบ้านพวกยู
แล้วถ้าพวกยูจำต้องหันหัวกลับทิศด้วยการขึ้นดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อแล้วจะเกิดอะไรขึ้น
ตอนนั้นคงจะเสแสร้งกันไม่ได้กันอีกแล้ว
แต่ถ้าจีนลอยค่าเงินหยวนในช่วงนั้น จะออกมาอีกเกม เอมันอะไรกันนี่ ใครจะไปก่อนกันแน่
thanong
1/5/2015
http://sputniknews.com/russia/20150428/1021491176.html
https://www.facebook.com/ThanongFanclub ... =1&theater