ยูเครน-โปแลนด์ ไร้เขตแดนแล้ว แต่ขอแบ่งรายได้จากนอร์เวย์เพราะคนน้อยแต่รวย
ภายหลังพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 ได้ราว 21 ปี นายกรัฐมนตรีฮิตเลอร์ แห่งเยอรมนี ต้องการ "จัดระเบียบโลกใหม่" จึงเริ่มสงครามในยุโรปขึ้นในปี 1939 โดยการบุกยึดโปแลนด์ เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 2 ใช้เวลาแค่ 28 วันเท่านั้นก็ชนะ โปแลนด์วินาศย่อยยับ และเยอรมนีใช้เวลาเพียง 3 เดือนก็ยึดยุโรปได้ทั้งหมด ไม่รอดแม้แต่อังกฤษ ฝรั่งเศส ทำให้เยอรมนีย่ามใจ ตัดสินใจผิดพลาด ร่วมกับฟินแลนด์ สวีเดน บุกเมืองเลนินกราด สหภาพโซเวียติ ใช้เวลารบนานถึง 2.5 ปี จนพ่ายแพ้มหาสงครามในที่สุด โปแลนด์จึงพ้นจากอำนาจเยอรมนี กลายเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียติ ที่ต่อมาล่มสลายแตกออก จนโปแลนด์เป็นประเทศใหม่อีกครั้ง
แต่ด้วยโปแลนด์เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียติ จึงต้องพึ่งพาระบบก๊าซ และระบบกริดไฟฟ้า คล้ายประเทศในกลุ่มทะเลบอลติกอื่น ต่อมาโปแลนด์ ถูกสหรัฐ อังกฤษ ปั่นว่ารัสเซีย คือภัยคุกคาม และสหรัฐ จะยืนอยู่เคียงข้างเสมอไม่ต้องกลัว จนโปแลนด์กังวลว่าจะไม่มั่นคงจึงเข้าร่วมกลุ่ม NATO เมื่อได้แบ็คอัพดีทำให้โปแลนด์ฮึกเหิม ต้องการดินแดนเก่าของตนช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงเมืองลวิฟ ในยูเครนตะวันตกคืนกลับมาเป็นของโปแลนด์ดังเดิม จึงอาสาสหรัฐเป็นกองหน้าชนรัสเซีย สร้างผลงานเข้าตามาเป็นระยะจนสหรัฐเห็นชอบในหลักการด้วยและกดดันยูเครน
โปแลนด์ ได้ให้เงินกู้กับยูเครน จำนวน 2,600 ล้านดอลลาห์ โดยขายรถถังเก่า T-72 ให้กับยูเครนจำนวน 200 คัน โดย สหรัฐ หลอกให้โปแลนด์ทำสัญญา Pre order ซื้อรถถังใหม่จากตนจำนวน 250 คันแต่ต้องใช้เวลาหลายปีในการส่งมอบครบ จึงบอกว่าช่วงรอรถถังใหม่นี้ จะช่วยเจรจากับเยอรมนี ชดเชยด้วยรถหุ้มเกราะ Leopard-2 จำนวนหนึ่ง แต่แล้วโปแลนด์ก็ถูกเยอรมนี เบี้ยวไม่ส่งให้ โดยอ้างว่าติดปัญหาในการผลิตจึงส่งของด่วนให้ไม่ได้ ให้รอไปก่อน ทำให้โปแลนด์ไม่มีรถถังใช้จึงโวยวายอาละวาดเยอรมนี ที่ผิดสัญญาหลอกให้รอ แถมรถถังโปแลนด์ที่ส่งให้ยูเครน ก็ถูกกองทัพรัสเซีย ถล่มพังเป็นเศษเหล็กไปแทบหมดแล้ว
โปแลนด์มีผู้นำ 2 ตำแหน่ง คนแรกคือประธานาธิบดีอันด์แชย์ ดูดา แห่งโปแลนด์ ที่เคยประกาศต่อผู้อพยพชาวยูเครนว่า "ต่อไปเราจะรวมกันเป็นหนึ่ง จะไม่มีพรมแดนระหว่างกันอีกแล้ว" ล่าสุดเขาได้เดินทางโดยรถไฟ ต่อรถยนต์ไปกรุงเคียฟ พบกับประธานาธิบดีเซเลนสกี้ แห่งยูเครน และสมาชิกสภายูเครน ที่มีแต่ฝ่ายรัฐบาลพรรคเดียว เนื่องจากฝ่ายค้านถูกผู้นำยูเครนสั่งยุบทิ้งหมด 11 พรรคไปนานแล้ว บรรดา ส.ส.ถูกกักบริเวณในบ้านหรือยัดคดีขังคุก ทั้งสองฝ่าย บรรลุข้อตกลง "ไม่มีพรมแดนกั้นระหว่างกัน ไม่มีวีซ่า" คล้ายผนวกดินแดนช่วงเฟสแรก เพื่อให้โปแลนด์ส่งกองทัพเข้ามาในพื้นที่ยูเครนตะวันตก อ้างว่ามารักษาสันติภาพ อีกทั้งสหรัฐมีแผนจะส่งทหารอเมริกันมากรุงเคียฟ อ้างว่ามาปกป้องสถานทูตสหรัฐ และใช้ดินแดนยูเครน ค้ำประกันเงินกู้
และผู้นำอีกคนคือนายกรัฐมนตรีมาเตอุซ โมราวิกิ แห่งโปแลนด์ ประกาศว่า เตรียมจะเสนอให้สร้างฐานทัพ NATO ถาวรขึ้นในประเทศ และประกาศมอบดินแดนให้สหรัฐมาติดตั้งขีปนาวุธพิสัยกลางติดหัวรบนิวเคลียร์ โดยปัจจุบันสหรัฐมาตั้งฐานยิงขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน Patriot จำนวน 4 ระบบที่ชายแดนโปแลนด์ โดยนายกฯ โปแลนด์ย้ำว่า "จะไม่ยอมสูญเสียดินแดนของกลุ่ม NATO ให้รัสเซียแม้สักนิ้วเดียว (หมายถึงดินแดนส่วนผนวกรวมขยายเขตแดนโปแลนด์ไปยูเครนตะวันตกถึงเมืองลวิฟ)
เดือน เม.ย.65 โปแลนด์ เบี้ยวจ่ายค่าก๊าซเป็นรูเบิล จึงโดน Gazprom รัสเซียตัดก๊าซไปแล้ว ส่งผลอัตราเงินเฟ้อสูงทะลุจักรวาลไปถึง 12% ของแพงทั้งแผ่นดินลำดับต้นๆ ในยุโรป จึงหันไปซื้อก๊าซราคาแพงจากเยอรมัน ที่วนเอาก๊าซจากรัสเซียกลับมาขายต่อกินส่วนต่างอีกที ช่วงนี้โปแลนด์ติดต่อจะขอซื้อก๊าซจากนอร์เวย์หลังจากท่อส่งก๊าซบอลติกเสร็จสมบูรณ์ ล่าสุด นายกฯ โปแลนด์ ระบุว่า "นอร์เวย์ควรแบ่งรายได้จากน้ำมันและก๊าซ ให้กับโปแลนด์ เพราะนอร์เวย์มีประชากรน้อยแค่ 5 ล้านคนแต่มีรายได้มากถึง 100,000 ยูโร/ปี เราจ่ายเงินก้อนใหญ่ให้นอร์เวย์สำหรับค่าก๊าซราคาแพง 4 - 5 เท่า ของที่เราเคยจ่ายเมื่อปีที่แล้วให้รัสเซีย" กําไรจากน้ำมันและก๊าซของนอร์เวย์ "มากเกินไป" จึงควรจะแบ่งปันผลกําไรที่มากขึ้นมาให้กับโปแลนด์
และล่าสุดเกิดม็อบประชาชนจำนวนมากในกรุงสต็อคโฮม สวีเดน เพื่อประท้วงรัฐบาลที่ไม่ทำประชามติก่อน จู่ๆ สมัครเข้า NATO โดยนักการเมืองไม่กี่คน แถมปั้นผลโพลเป็นเท็จอีกด้วย..สรุป..รัสเซียไม่ต้องทำอะไร นั่งกินอาหารเต็มโต๊ะ จิบวอดก้า ฮัมเพลง และนับเงินรูเบิลไหลเข้าท่วมประเทศ ให้กองทัพสาธารณรัฐลูฮันสก์ และโดเนตสก์ ขยายพื้นที่ยึดยูเครนต่อไป อาจมีขีปนาวุธพลาดตกใส่ชายแดนโปแลนด์ ฟินแลนด์ สวีเดน บ้าง จากนั้นก็ปิดๆ เปิดๆ ท่อพลังงาน แค่นี้ชาติยุโรปก็จะตีแย่งพลังงานกันนัวเนีย ส่วนสหรัฐ นั้นก็กำลังวุ่นวายกับมหาสงครามนมผงเด็กขาดแคลน..โปแลนด์ ยูเครน อย่าท้อ สู้ต่อไป..ชนะแน่นอน
ที่มา : Der Spiegel , Reuters, สื่อท้องถิ่นโปแลนด์ , ThailandVision
#WorldUpdate