สหรัฐ ให้คำมั่นปกป้องญี่ปุ่น เกาหลีไต้ มั่นคงแน่ แต่ในสหรัฐยิงกันแหลกไม่มั่นคง
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ ผู้มีสโลแกนใหม่ว่า "นมผงเด็กหมดไม่ว่า อาวุธหมดไม่ได้"ได้เดินทางไปบอกเกาหลีไต้ และญี่ปุ่น ว่าชาติทั้ง 2 ไม่มั่นคงปลอดภัยจากจีน และรัสเซีย แล้วต้องเร่งทุ่มงบประมาณลงทุนซื้ออาวุธมาตุนสะสมเยอะๆ แล้วสหรัฐ รับประกันความปลอดภัยและยืนเคียงข้างเสมอไม่ต้องกลัว สิ้นคำมั่นปุ๊บ ทั้งญี่ปุ่น และเกาหลีไต้ ก็ไม่มั่นคงปั๊บทันที เมื่อกองทัพจีนส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด H-6 , เครื่องบินรบ 2 ลำ ร่วมกับเครื่องบินทิ้งระเบิดTu-95 และเครื่องบินรบรัสเซีย 4 ลำ บินเข้ามาจิบน้ำชาทางใต้ของเกาะเชจูมี ทำให้กองทัพเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ตาเหลือกต้องส่งเครื่องบินรบขึ้นสู่น่านฟ้าสังเกตุการณ์อย่างเขินๆ
ในขณะที่ผู้นำสหรัฐ อยู่บนเครื่องบิน Air force one พร้อมนั่งคำนวนรายรับออร์เดอร์อาวุธจาก 2 ชาติพันธมิตร และครุ่นคิดว่าจะไปชิงนมผงเด็กที่กำลังขาดแคลนวิกฤติร้ายแรงในชาติ มาจากแหล่งใดขนกลับบ้านอยู่นั้น ภายในสหรัฐ ก็เกิดเหตุไม่มั่นคงจากอาวุธซ้ำแบบเดิมขึ้น เกิดเหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถม Robb Elementary School เมืองอุลวาเดอ ห่างจากเมืองซานอันโตนิโอ รัฐเท็กซัส ไปทางตะวันตกราว 112 กิโลเมตร โรงเรียนนี้สอนชั้นประถม 2-4 มีนักเรียน 535 ประมาณ 90% เป็นชาวฮิสแปนิก (ใช้ภาษาเสปน) ครอบครัวส่วนใหญ่มีรายได้น้อย เมืองนี้มีประชากรราว 25,000 คน
มือปืนวัยรุ่น คือ นายซัลวาดอร์ รามอส อายุ 18 ปี เขาได้ก่อเหตุยิงยายของเขาที่บ้านบาดเจ็บ จากนั้นใช้อาวุธปืนพกและปืนไรเฟิลชนิด AR-15 ขับรถมาแล้วเดินตรงเข้าไปที่โรงเรียน จากนั้นก่อเหตุกราดยิงใส่นักเรียนซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กชั้นประถมต้นที่โรงเรียนแห่งนี้ และครู ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตคาที่รวดเดียว 21 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กอายุเพียง 7-10 ปีจำนวน 18 ราย และผู้ใหญ่ 3 ราย และยังมีผู้ถูกยิงบาดเจ็บสาหัสและปานกลางอีกอย่างน้อย 15 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาล ต่อมาตำรวจได้ปะทะกับผู้ก่อเหตุและยิงสังหารวัยรุ่นรายนี้เสียชีวิต ส่วนตำรวจบาดเจ็บ ยังไม่ทราบแรงจูงใจในการลงมือก่อเหตุนี้
เฉพาะในปี 2022 นี้แค่ไม่ถึง 5 เดือน มีเหตุกราดยิงทำนองนี้เกิดขึ้นในสหรัฐฯ แล้วถึง 215 ครั้ง , ในปี 2021 ผู้ว่าการเท็กซัส ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ โอ้อวดอย่างภูมิใจว่า ได้ประกาศกฎหมายไม่ต้องมีใบอนุญาตพกปืนในที่สาธารณะ และผู้ครอบครองไม่จำเป็นต้องได้รับการฝึก , ด้านนายเท็ด ครูซ สมาชิกวุฒิสภาจากรัฐเท็กซัส เขาคัดค้านการแก้กฎหมายจำกัดการครอบครองอาวุธปืน อ้างว่าไม่ใช่ทางออก ส่วนพรรคพวกเขาเสนอให้ครูสามารถพกพาอาวุธปืนไปสอนได้เพื่อป้องกันเหตุ , กระทรวงยุติธรรมรายงานว่า ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ ผลิตปืนขายมากกว่า 139 ล้านกระบอก นำเข้ามาอีก 71 ล้านกระบอก เฉพาะปี 2020 มีผู้ผลิตที่ยังดำเนินงานอยู่ 16,963 ราย ผลิตปืนขาย 11.3 ล้านกระบอก
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) สหรัฐฯ ระบุว่าปี 2020 มีผู้เสียชีวิตจากถูกปืนยิงตาย 19,350 ราย เพิ่มขึ้นเกือบ 35% จากปีก่อนหน้า , มีคนใช้ปืนยิงตัวตาย 24,245 ราย เพิ่มขึ้น 1.5% , อัตราส่วนคนตายเพราะปืนราว 6.1 รายต่อประชากร 100,000 คน สูงที่สุดในรอบกว่า 25 ปี พอๆกับสงครามยูเครน , ปัจจุบัน ชาวอเมริกันนิยมสะสมปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติ และยังซื้อปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มม.ที่ใช้งานง่าย ยังไม่นับปืนเถื่อนที่มีเกลื่อนเมือง ทั้งปืนประกอบขึ้นเองจากชิ้นส่วนที่ซื้อทางออนไลน์ ปืนพิมพ์จากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ปืนยิงลูกระเบิด จรวด และอาวุธหนักทางสงครามอีกจำนวนมากในตลาดมืดที่บรรดาทหารรับจ้างนำอาวุธกลับมาจากสมรภูมิสงครามต่างๆ ทั่วโลก อย่างไร้การควบคุม..สหรัฐ ส่งทหารกว่า 3 แสนคนไปประจำการฐานทัพตนทั่วโลก 750 แห่งให้ความมั่นคงชาติอื่น อาวุธและกำลังพลมากมายไปอยู่ที่อื่นหมด แต่พลเมืองในดินแดนตนเองกลับไม่มีความมั่นคง..เด็กๆ ยังคงอดอยากนมผง และถูกกราดยิง..สู้ต่อไปนะ พ่อค้าอาวุธรวยขึ้นแน่นอน
ที่มา : Reuters , ksbw, AP , Texas.gov, Workpoint
#WorldUpdate