https://www.facebook.com/World-Update-112136971373318/" />

จีน ชวนอาเซียนทำมาหากิน และค้าขายกัน แต่สหรัฐ ชวนอาเซียน ไปขัดแย้งตีกับจีน

วิเคราะห์ติดตามสถานการณ์โลก
https://www.facebook.com/World-Update-112136971373318/
ภาพประจำตัวสมาชิก
admin
Administrator
Administrator
โพสต์: 13567
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. 21 พ.ค. 2015 12:14 pm
กลุ่ม: ผู้ดูแลระบบ

จีน ชวนอาเซียนทำมาหากิน และค้าขายกัน แต่สหรัฐ ชวนอาเซียน ไปขัดแย้งตีกับจีน

โพสต์โดย admin » เสาร์ 28 พ.ค. 2022 6:51 am

จีน ชวนอาเซียนทำมาหากิน และค้าขายกัน แต่สหรัฐ ชวนอาเซียน ไปขัดแย้งตีกับจีน
ความสัมพันธ์ระหว่างชนชาวจีน กับบรรดาชนชาติในย่านเอเซียตะวันออกเฉียงไต้(อาเชียน) นั้น จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์มีมายาวนานกว่า 1,000 ปี จนมาถึงในช่วงตั้งแต่ปี 2009 จีนก็กลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 1 ของชาวอาเซียนเป็นเวลาติดต่อกัน 12 ปีถึงปี 2020 ถัดมาปี 2021 ยอดการค้าระหว่างจีนกับอาเซียนเป็นเงินมากถึง 878,200 ล้านดอลลาร์ แต่ยอดการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับอาเซียนเป็นเงิน 379,000 ล้านดอลลาร์ หรือแค่ 43.2% ของยอดการค้าระหว่างจีนกับอาเซียนเท่านั้น
ถัดมาปี 2021ยุโรปที่ใช้วัคซีนโควิดแบบตะวันตกที่มีความสัมพันธ์กับห้องแลปชีวภาพมหาอำนาจ ต้องเผชิญปัญหาการระบาดโรคโควิดหนักหนากว่าชาติอาเซียนหลายร้อยเท่าตัว แต่จีนที่ใช้วัคซีนโควิดเชื้อตายกลับไม่มีการระบาดของโรค ทำให้ยุโรปต้องการ Supply สินค้าจากจีนทุกอย่าง ส่งผลให้การค้าระหว่างจีนกับสหภาพยุโรป แซงขึ้นมาเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 1 แทนอาเซียน แต่จีนกลับสนใจอาเซียน มากกว่า ช่วง พ.ค.2021 จีนประชุมร่วมกับอาเซียนได้ให้คำมั่นสัญญาว่าในระยะ 3 ปีข้างหน้า จะเสนอเงินทุนเพื่อช่วยพัฒนาจำนวน 1,500 ล้านดอลลาร์ กับอาเซียน เพื่อใช้ในการป้องกันโรคระบาดและส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ปี 2021 นั้นสหรัฐ มีความต้องการจะมามีอิทธิพลแทนที่จีนในอาเซียน โดยการแทรกแซงหนุนอาวุธจำนวนมากทะลักผ่านชายแดนอินเดียเข้าตะวันตกพม่า และลักลอบผ่านผู้ลี้ภัย และขบวนการค้าอาวุธเถื่อนผ่านชายแดนไทยทิศตะวันตกและเหนือ ส่งให้กลุ่มก่อการร้าย PDF ก่อสงครามกลางเมือง เผาบ้านเผาเมือง ร่วมกับชนกลุ่มน้อยติดอาวุธในเมียนมา เพื่อหวังว่าถ้าโค่นล้มรัฐบาลปัจจุบันได้ จะรื้อฟื้นสัญญาเช่าเกาะโคโค สร้างฐานทัพและฐานยิงขีปนาวุธอีกครั้ง แต่ถูกกองทัพเมียนมาที่จีน-รัสเซีย หนุนมีอาวุธเหนือกว่าปราบปรามจนหมดสภาพ สหรัฐ จึงฝันสลาย เชิดให้เกาหลีใต้ลงพื้นที่ดูหน้างานสถานที่ชายแดนแม่สอด จ.ตาก แล้วล็อบบี้ไทยขอตััง "Korea free zone" บังหน้า ความจริงคือที่ทำการชั่วคราวรัฐบาลกบฎพลัดถิ่น NUG แต่ไทยรู้ทันจึงล้มเหลวไปไม่เป็นท่า
ปีก่อนสหรัฐ พยายามบีบอาเซียน ขอตั้งฐานยิงขีปนาวุธพิสัยกลางข่มขู่จีน ก็ไม่มีชาติใดยินยอมจึงมีการหนุน NGOs และพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐ ก่อม็อบสร้างความรุนแรงวุ่นวายกับสังคม หนุนเงินขบวนการด้อยค่าวัคซีนจีน รวมทั้งสหรัฐอ้างว่าอาวุธปืนไร้แรงสะท้อน Recoilless Rifle 106 mm. "ล้าสมัย" ต้องใช้ของเขาดีกว่า บีบให้บางชาติซื้อขีปนาวุธ Javelin FGM-148 ยิงรถหุ้มเกราะทดแทน และบางชาติซื้อฝูงบินรบไอพ่น รวมถึงบีบขายวัคซีนโควิดแบบตะวันตกที่มีที่มาคลุมเครือ เมื่อขายของได้สมหวังแล้ว การขอตั้งฐานทัพ ขบวนการด้อยค่าวัคซีนจีน และม็อบ NGOs ก่อความรุนแรงก็ถูกตัดเงินต่างชาติ ก็ฟ่อสลายไปพร้อมกัน
ต่อมาต้นปี 2022 สหรัฐ ปั่นยุโรปเข้าเป็นปฏิปักษ์รัสเซีย แต่ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ แค่ช่วง 4 เดือนแรกของปี ส่งผลยอดการค้าระหว่างจีนกับอาเซียน พลิกกลับมามหาศาลพุ่งเกือบ 290,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่งผลให้อาเซียนชนะยุโรป กลับมาเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 1 ของจีนอีกครั้ง การผงาดขึ้นของจีนในอาเซียน ทำให้สหรัฐ ถึงกับตาร้อนผ่าว กลางเดือน พ.ค.65 ทำเนียบขาวจึงบีบแกมบังคับให้ผู้นำประเทศอาเซียนไปประชุมสุดยอดที่วอชิงตัน กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ มามุกใหม่หวังสร้าง "NATO Asian" ไปพร้อมกับยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิค ของกลุ่ม QUAD+AUKUS หรือฉายา "NATO version2" โดยให้คำมั่นสัญญาที่หยอดเงินน้อยนิดลงทุนใน 10 ประเทศ ภูมิภาคอาเซียนเพียง 150 ล้านดอลลาร์ (เฉลี่ยเพียงประเทศละ 15 ล้านดอลลาร์)
แถมยังมีเงื่อนไขบีบบังคับว่า “ในจำนวนนี้ 60 ล้านดอลลาร์ หรือราว 40% จะต้องใช้ในโครงการป้องกันทางทะเล เพื่อที่จะยับยั้งและปิดล้อมจีน" หรือใช้เงินแค่น้อยนิด ชวนอาเซียน พลเมืองรวมกัน 600 ล้านคนไปตีกับจีน อีกทั้งสหรัฐ เพิ่งอนุมัติให้เงินช่วยเหลือ (เงินกู้) ยูเครนไปแล้ว 53,000 ล้านดอลลาร์ (ก้อนแรก 13,000 ล้าน+ ก้อนหลัง 40,000 ล้าน) แต่สหรัฐฯ จะให้เงิน 10 ประเทศอาเซียนแค่เพียงแค่ 150 ล้านดอลลาร์ เหมือนเป็นการดูถูกอาเซียน เพราะเมื่อเทียบกับที่จีนแล้ว ถือว่าสหรัฐให้น้อยกว่ามากถึง 10 เท่า เทียบกันไม่ติดฝุ่น
อีกทั้งชาวอาเซียน ไม่ชอบ “สงครามเย็น และมีค่านิยมไม่เป็นปรปักษ์กัน" ดังนั้นสหรัฐ หวังสร้าง NATO Asian มุ่งหมายเป็นปรปักษ์ต่อจีน สร้างความผันผวนไม่มั่นคงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จึงเป็นการดูถูกสติปัญญาของชาวอาเซียน ต่างกับจีนที่เน้นใช้วิธีทางทูตรักษาสันติภาพ กระชับความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจ..จึงส่งผลให้สหรัฐ ต้องย้ายฐานติดตั้งขีปนาวุธพิสัยกลางติดหัวรบนิวเคลียร์ไปลงที่ญี่ปุ่นแทน เพราะแม้แต่เกาหลีใต้ก็ขอบายเช่นกัน..อาเซียน จึงคบได้กับทุกฝ่าย เป็นกลาง ไม่ทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับฝ่ายใดเด่นชัด ไม่ให้ใครตั้งฐานทัพติดตั้งขีปนาวุธ ฝ่ายใดเปย์หนักให้อาเซียนมากกว่า เน้นแนวทางสันติภาพมากกว่า ก็ดูเหมือนชาติอาเซียนจะส่งตาหวานให้กับฝ่ายนั้นมากกว่าไปด้วย
อาเซียน ยังมีนโยบายเฉียบคมกว่ายุโรป แม้ที่ผ่านมามูลค่าการค้าระหว่างจีน-ยุโรป กับ จีน-อาเซียน จะเบียดสูสีกัน แต่ยามวิกฤติเผชิญหน้า อาเซียนชนะ เพราะไม่ยอมถูกใช้เป็นเครื่องมือสหรัฐ ปั่นให้คว่ำบาตรใคร อันจะทำให้เศรษฐกิจ ความมั่นคง กระเพื่อมผันผวนไม่มั่นคงในภูมิภาค เกิดวิกฤติเหมือนยุโรปกำลังเผชิญ จนนักลงทุนตะวันตกย้ายออกมุ่งมาอาเซียน เพราะตราบที่ยุโรป ยังสลัดอิทธิพลไม่ให้สหรัฐ อังกฤษ ขี่หลังกุมบังเหียนไม่ได้ ภูมิภาคยุโรปก็จะไม่มีความปลอดภัย ไม่มั่นคง ดังนั้นอาเซียน จึงเป็นภูมิภาคตัวเลือกถิ่นฐานการลงทุนที่ปลอดภัยจากสงครามมากที่สุดในระยะยาว อาหารบริบูรณ์เหลือเฟือ พลังงานพอช่วยกันได้ แล้วดึงพลังงานตะวันออกกลางมาเติมส่วนพร่อง..ส่วนออสเตรเลีย ได้ผู้นำคนใหม่มีนโยบายยูเทิร์น 180 องศา ขอคืนดีกับจีนแล้ว ดังนั้นสหรัฐ มุ่งไปตั้งฐานยิงขีปนาวุธพิสัยกลางติดหัวรบนิวเคลียร์ที่ญี่ปุ่นต้านจีน-รัสเซียนั้น เลือกถูกต้องแล้ว ตีกันหิวอะไรก็สั่งของมา ชาวอาเชียนอาหารเยอะเอาใจช่วย..ญี่ปุ่นสู้ต่อไป เกาะหายวับแน่นอน

ที่มา : สื่อจีนลึกชัดกับผิงผิง Reuters , Postoday , TNNworld
#WorldUpdate



ย้อนกลับไปยัง

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: 1 และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน

cron