อาณาจักรทั้งหลายพังเพราะทำลายค่าเงินตัวเองด้วยการปั๊มเงินไม่อั้น เพราะว่ามีการใช้จ่ายที่เกินตัว และทำการสงครามอย่างไม่มีวันจบสิ้น อาณาจักรไบแซนไทน์ (Byzantine Empire)มีชะตากรรมที่ไม่แตกต่างจากอาณาจักรโรมก่อนหน้านั้น
ในสมัยกลางกรุงคอนแสดนติโนเปิ้ล ซึ่งปัจจุบันอยู่ในประเทศตุรกีเป็นศูนย์กลางของโลก ร่ำรวยมหาศาล และก้าวหน้าที่สุดทางวิทยาการ มีสถาปัตยกรรมที่โอ่อ่าเลิศหรู โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝีมือการทำโมเสคสวยที่สุดไม่มีที่ใหนเทียบได้ ในช่วงที่รุ่งเรืองที่สุด กรุงคอนแสดนติโนเปิ็ลมีประชากรมากถึง500,000คน
ณ จุดนี้ของเวลาในประวัติศาสตร์ ความร่ำรวยและอำนาจในโลกนี้อยู่ในมือของตะวันออก ยุโรปยังล้าหลังอยู่มาก มีแต่ความยากจนและเชื้อโรคที่แพร่ระบาด แต่คอนแสดนติโนเปิ้ลเจริญรุ่งเรื่องและจีนมีเทคโนโลยี่ล้ำยุคหลายอย่าง
แต่เวลาทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง
มาถึงศตวรรษที่13 อาณาจักรไบแซนไตน์เริ่มเสื่อม ดินแดนที่เคยครอบครองหดตัวลงมา และมีแรงกดดันให้ทำสงครามอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาสถานภาพเดิม
ในการทำสงครามต้องมีค่าใช้จ่าย และเงินเป็นปัจจัยหลัก ในเมื่อมีการใช้จ่ายเกินตัวในการทำสงครามอย่างต่อเนื่อง ทำให้อาณาจักรไบแซนไทน์ต้องหล่อเหรียญที่ใช้เป็นเงินออกมาให้เพียงพอกับการ ใช้จ่าย เรียกได้ว่าปั๊มเงินอย่างไม่ลืมหูลืมตา เหมือนกับที่สหรัฐฯกำลังทำQEทุกวันนี้
เป็นเวลาหลายศตวรรษแล้วที่เหรียญทองโซลิเดียสของไบแซนไตน์ (Byzntine gold solidus) เป็นเงินสกุลหลักของโลก จักรพรรดิConstantine I เป็นผู้ให้กำเนิดเหรียญทองโซลิเดียสในปีคศ. 312 เหรียญทองนี้มีความน่าเชื่อถือเพราะว่าหล่อออกมาจากบล๊อคพิมพ์โดยมีส่วนผสม ของทองคำบริสุทธิ์อยู่4.5แกรม ประเทศหรืออาณาจักรต่างๆทั่วโลกใช้เงินโซลิเดียสในการค้าขายและการชำระเงิน เป็นเวลายาวนานถึง7ศตวรรษ มีการขุดพบเหรียญทองโซลิเดียสในมองโกเลีย
ในเมื่อต้องทำสงครามอย่างไม่หยุดหย่อน ภาระการใช้จ่ายในงบประมาณทางทหารพุ่งไม่หยุด อาณาจักรไบแซนไตน์จำต้องปั๊มเหรียญทองโซลิเดียสออกมาเรื่อยๆ ปัญหาคือทองคำที่จะเอามาใช้หล่อมีปริมาณจำกัด ในศตวรรษที่11 ส่วนผสมของทองคำในเหรียญโซลิเนียสเริ่มที่จะมีปริมาณลดลงไปจนกระทั่งไม่มี ทองคำเหลืออยู่เลย
จากเหรียญทองกลายเป็นเหรียญโลหะธรรมดาที่ไร้ค่าจากการทำQE
พลาดไปแล้ว ขอแก้ตัวใหม่ อาณาจักรไบแซนไตน์หล่อเงินไฮเปอรอน (hyperon)ออกมาแทนเหรียญโซลิเดียสที่ไร้ค่า เริ่มด้วยมีส่วนผสมของทอง20.5การัต หรือมีความบริสุทธิ์ประมาณ80% แต่ภาระการใช้จ่ายที่เพิ่มทำให้มีการลดปริมาณทองในเหรียญไฮเปอรอนเหลือ18กา รัต แล้วลดลงไปอีกเหลือ15การัต แล้วก็เหลือ12การัต
เรียกได้ว่า ทำQEจนเจ๊งแล้วเจ๊งอีก
พวกยุโรปที่กำลังสร้างอำนาจขึ้นมา บอกว่าไม่เอาแล้วเหรียญทองที่ไม่มีทองที่เป็นเงินสกุลหลักของโลกของพวกไบแซ นไตน์ ผู้ปกครองของอิตาเลี่ยนตั้งตัวในการแก้ปัญหานี้ ในศตวรรษที่13 ฟลอเรนซ์ เจนัวและเวนิสปั๊มเหรียญทองของตัวเองออกมาแข่ง เหรียญฟลอเรนไทน์ฟลอริน (Florentine florin)กลายเป็นเงินสกุลหลักที่ใช้กันแพร่หลายในยุโรป
นี้คือจุดเริ่มต้นของการมีอำนาจของโลกตะวันตก ซึ่งเริ่มจากการปฏิเสธการทำQEของอาณาจักรที่เสื่อมถอย และเงินเหรียญที่ไม่มีใครเชื่อถืออีกต่อไป
thanong
29/11/2014
http://www.sovereignman.com/trends/this ... nce-15646/