25 สิงหาคม 2017 ·
สารพัน วันละนิด
บทความในคอลัมน์สาระพัน วันละนิดก่อนหน้าที่ แอดฯ ได้เสนอเรื่องราวของเรือ SGPV (Second Generation Patrol Vessel) ของ ทร.มาเลเซียไปแล้วครับ วันนี้แอดฯ ขอพาไปดูกับระบบอาวุธปล่อยนำวิถี พื้น-สู่-พื้น (Surface to Surface Missile : SSM) ตราอักษร KONGSBERG แบบ Naval Strike Missile ซึ่งต่อไปนี้จะขอย่อว่า NSM นะครับ ซึ่งจะเป็นอาวุธนำวิถี ที่ติดตั้งบนเรือชั้นดังกล่าวของ ทร.มาเลเซีย ด้วย
ระบบอาวุธปล่อยนำวิถี NSM ออกแบบและผลิตโดยบริษัท KONGSBERG Defence & Aerospace ประเทศ นอร์เวย์ โดยเริ่มต้นโครงการพัฒนาขึ้นในปี 2007 โดยความมุ่งหมายคือการหาอาวุธปล่อยนำวิถีเพื่อติดตั้งบนเรือฟริเกตชั้น Fridtjof Nansen และ เรือตรวจการณ์ชั้น Skjold ของ ทร.นอร์เวย์ และภายหลังในปี 2018 มีการลงนามสัญญาจัดหาระบบ NSM รุ่นยิงจากฐานยิงเคลื่อนที่บนบก (Land Based Launcher) จำนวน 50 ระบบ ซึ่งตามสัญญานั้นมีกำหนดส่งมอบในห้วงปี 2013 – 2016 ซึ่งภายหลังระบบ NSM ได้เสร็จสมบูรณ์ในปี 2011 ครับ และในปีเดียวกับกระทรวงกลาโหมนอร์เวย์ ได้ประกาศการพัฒนา NSM ใน Phase 2 ต่อ
NSM ทดสอบการยิงครั้งแรก ในวันที่ 10 ต.ค. 2012 โดยเรือตรวจการณ์ชื่อ HNoMS Glimt และหลังจากนั้นในวันที่ 5 มิ.ย. 2013 ได้ทดสอบการยิง NSM ลูกจริงโดยติดตั้งส่วนของหัวรบจริงเข้าไปด้วย โดยยิงต่อเป้าเรือเก่าที่ได้ปลดประจำการไปเรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือ HNoMS Trondheim ซึ่งอาวุธปล่อยนำวิถีถูกเป้า และ ชนวนของหัวรบทำงานโดยไม่มีข้อผิดพลาด
ในเดือน มิ.ย.2013 กองทัพโปแลนด์ได้รับมอบ รถปล่อยอาวุธนำวิถี จำนวน 6 คัน พร้อม NSM จำนวน 12 ลูก รถเรดาร์ตรวจการณ์ 2 คัน รถเรดาร์ควบคุมการยิง 6 คัน และ รถควบคุมบังคับบัญชา 3 คัน โดยในปัจจุบันมีรถปล่อยอาวุธนำวิถีจำนวน 12 คัน พร้อม NSM จำนวน 48 ลูก และในปี 2014 ยังไดสั่ง NSM Batch II เพิ่มเติมอีกด้วย
นอกจากนอร์เวย์ และ โปแลนด์ จะมีการสั่งอาวุธนำวิถี แบบ NSM เข้าประจำการแล้ว ยังมีประเทศอื่นๆได้แก่ เยอรมนี และ มาเลเซียครับ
คุณลักษณะเด่นของ Naval Strike Missile
-การออกแบบวัสดุ NSM ใช้วัสดุ Composite ในการออกแบบชิ้นส่วนของอาวุธนำวิถี เพื่อเพิ่มคุณสมบัติในการล่องหน (Stealth) เนื่องจาก วัสดุแบบ Composite ที่ใช้นั้นจะเคลือบด้วยสีลดการสะท้อนคลื่นเรดาร์อีกชั้น รวมทั้งตัววัสดุเองสะท้อนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าน้อยกว่าโลหะ ทำให้โอกาสในการถูกตรวจจับด้วยเรดาร์นั้นน้อยลง
-การออกแบบหัวรบ (Warhead) เพื่อให้รองรับการปฏิบัติการชายฝั่ง (Littoral Warfare) หัวรบทำจากดินระเบิดแบบ TDW โดยใช้ ไทเทเนียมอัลลอยด์ที่แตกกระจายเป็นสะเก็ดได้ รวมทั้งการใช้หัวรบแบบใหม่นี้ทำให้ NSM มีน้ำหนักที่เบากว่า (TDW เป็นดินระเบิดชนิดหนึ่ง แบบระเบิดแรงสูงชนวนไว)
-ชนวน (Fuze) ออกแบบมาเป็นแบบ Multi-Purpose Programmable Fuze คือสามารถเลือกประเภทของชนวนที่ต้องการได้ก่อนการยิง
-ความคล่องตัวในการหันเลี้ยว จากเดิมที่ Penguin Missile ใช้ระบบการหันเลี้ยวแบบ Yaw to turn (ถ้าแอดเข้าใจไม่ผิด คือใช้การหันในแนวระนาบในการเลี้ยว) แต่ NSM ใช้การหันเลี้ยวแบบ Bank to turn (ถ้าแอดฯ เข้าใจไม่ผิดอีกเช่นเดิม คือการหันเลี้ยวโดยมีการอาการเอียงช่วย เพื่อสร้างแรงในการเลี้ยวโดยปีก) ทำให้วงเลี้ยวของ NSM แคบกว่า Missile ที่เลี้ยวแบบ Yaw to turn
-ระบบการนำวิถี แบบ Passive สามารถเลือกเป้าโดยจำแนกชั้นของเรือ หรือ รูปแบบของลักษณะเป้าหมายบนฝั่งได้ โดยการใช้ภาพ Imagine Infrared คือภาพจากความร้อนของเป้าที่แตกต่างกับภูมิประเทศ โดยเรือยิงสามารถส่งภาพเงาดำจาก Database ให้ NSM ก่อนการยิง เพื่อให้อาวุธนำไปเลือกเป้าหมายที่มีภาพใกล้เคียงที่สุดได้ ตรงจุดนี้เองทำให้แตกต่างจาก Active Homing Radar ที่จะพบเป้าหมายในลักษณะเป็น Echo และเลือกเป้าตาม Search Pattern ที่ตั้งค่ามาจากโรงงาน หรือเลือก Pattern ก่อนการยิงเท่านั้น และในการยิงเป้าหมายบนฝั่ง ยังมีระบบนำวิถีแบบ Inertial navigation System (INS) / DGPS และ Terrain Reference (หรือ เรียกได้ว่า การบินด้วยภูมิประเทศอ้างอิง) ครับ
คุณลักษณะโดยทั่วไป
-น้ำหนักต่อลูก 410 กก. ความยาว 3.95 เมตร
-น้ำหนักหัวรบ (Warhead) หนัก 125 กก. โดยมีความรุนแรงของการระเบิดเทียบเท่า TNT 100 กก. (ปกติความรุนแรงการระเบิดของดินระเบิดจะเทียบกับ TNT เป็นฐานนะครับ)
-ระบบการขับเคลื่อน ในช่วง Booster Phase จะใช้เชื้อเพลิงแข็งในการขับให้อาวุธปล่อยนำวิถีพ้นจากท่อยิง และเมื่อได้ระยะตามที่ตั้งค่าจากโรงงาน จะสลัด Booster ทิ้ง หลังจากนั้นในช่วง Mid-course และ Terminal Phase จะใช้การขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Turbojet รุ่น TRI-40 ใช้เชื้อเพลิงเหลวในการขับเคลื่อน (JP-8 หรือ JP-10)
-ความเร็วในการโคจร 0.7 – 0.95 มัค
-ระยะยิง ประมาณ 100 ไมล์ทะเล หรือ 180 กม. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า Profile ในการยิงด้วย
-ในด้านความแม่นยำ (จากการโฆษณาและการทดลองยิงเป้าไม่เคลื่อนที่) พบว่ามีความคลาดเคลื่อนของตำบลที่คำนวณ กับตำบลที่กระทบเป้า ประมาณ 2 ฟุต
-ความสูงในโคจร สามารถตั้งค่าได้ โดยสามารถโคจรในความสูงเรี่ยพื้น/น้ำได้ในระดับ Extremely Sea Skim (ตอนเจ้าหน้าที่บริษัทมาบรรยาย แจ้งว่าราวๆ 2 เมตรนะครับ สำหรับความสูงโคจรต่ำสุดที่ทำได้)
นอกจาก NSM แล้ว บริษัท KONGSBERG ยังร่วมมือกับ บริษัท Raytheon ในการพัฒนา Joint Strike Missile เพื่อเป็นอีกหนึ่ง Version ของ NSM โดยมีระยะยิงมากขึ้นกว่าเดิม คือ 100 ไมล์ ใน แบบ Low Low Low Flight และ 300 ไมล์ในแบบ Hi Hi Low Flight และเพิ่มน้ำหนักหัวรบเป็น 230 กก.
การพัฒนาของ JSM เพื่อติดตั้งในเรือดำน้ำของนอร์เวย์ ทำให้ค้นพบว่า สามารถใช้ JSM ติดตั้งใน Mk41 VLS (Vertical Launching System) ได้จึงทำให้ บริษัทเข้าเสนอตัวในการจัดหา Missile ของ ทร.สหรัฐ โดยจะต้องแข่งขันกับ LRASM จาก Lockheed Martin ครับ
นอกจาก F-35 Lightning II แล้วในปี 2015 F-16 ประสบความสำเร็จในการยิง JSM ด้วยลูกจริงแล้วอีกด้วย
เรื่องที่คนทั่วไป ทราบไว้ ก็ดูเก๋ๆ
แต่ทหารเรือทุกนายควรทราบ เพราะเพื่อนบ้านกำลังจะมีใช้ครับ
By Admin ต้นปืน561
https://www.facebook.com/Laemsing561/po ... 029207552/