เลือกตั้งปี 66 เลือกอะไร ... ?

[admin]

อาจจะยาวหน่อย แต่มันเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องทราบ
ก่อนที่เงินหมื่นเดียวจะนำเราไปสู่ความเป็นทาสไปตลอดกาล
ขอขอบคุณอาจารย์เจริญ คัมภีรภาพที่เมตตาเขียนบทความนี้ลงในไทยโพสต์เพื่อให้คนไทยตาสว่าง เรามีหน้าที่ส่งต่อข้อมูล จัดไป

เลือกตั้งปี 66 เลือกอะไร ... ?
เจริญ คัมภีรภาพ

๗ และ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ วันเลือกตั้งล่วงหน้าและเลือกตั้งทั่วไปของประเทศไทยที่กำลังจะมาถึงในครั้งนี้ มีความสำคัญที่แตกต่างจากการเลือกตั้งครั้งใด ๆ ในอดีตที่ผ่านมา เพราะเป็นรอยต่อที่สำคัญในทางเศรษฐกิจสังคมและการเมือง และจุดเปลี่ยนผ่านของโลกอีกทั้งของไทยเราด้วย สุดแต่ว่าเราจะตั้งประเด็นพิจารณาใคร่ครวญอะไรเป็นสรนะ คนที่มองแต่การเลือกลงคะแนนก็อ้างว่าเป็นการเลือกเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะของประชาธิปไตย แลนด์สไลด์ คนที่มองการใช้อำนาจของประชาชนก็ดูไปที่การแสดงอำนาจของประชาชน หรือ คนวางแผนแต่เรื่องเลือกตั้งก็พยายามเสนอวิธีโหวตลงคะแนนให้เป็นการเลือกตั้งแบบยุทธศาสตร์เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบ หรือ คนที่ต้องการชัยชนะอย่างเดียวและต้องการเงินก็จะมองการเลือกตั้งเพื่อให้ได้มาซึ่งจำนวนเงิน Wallet ๑๐,๐๐๐ บาท คนชอบการเปลี่ยนแปลงก็ว่า เป็นการเลือกเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ และ อาจมีเหตุผลอื่น ๆ อีกมากมายต่าง ๆ นานาสุดแต่ว่าสังคมจะมีพื้นฐานความรู้ความเข้าใจโลกสังคมการเมือง รู้เท่าทันมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจอย่างไรหรือไม่

ที่เห็นเบื้องหน้าเราตอนนี้คือมีการหาเสียง เห็นว่าที่ผู้สมัครทั้งแบบเขต และ บัญชีรายชื่อจากพรรคการเมืองต่าง ๆ หน้าดำ หน้าแดง ทนตากแดดตากลมออกไปเยี่ยมเยือนแนะนำตัวกับประชาชน ปราศรัย โฆษณาหาเสียงเสนอนโยบายต่าง ๆ นานา ในเขตเป้าหมายผู้จะไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ขณะที่การแข่งขันตระกูลดังประจำจังหวัดที่เรียกว่า บ้านใหญ่ ถูกหยิบมาเป็นประเด็นสาธารณะที่สื่อสารมวลชนให้ความสนใจ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ ออกทำโพลสำรวจความนิยม การจะไปใช้สิทธิของประชาชนว่าจะเลือกใครและพรรคไหนกันอย่างไร แม้ถึงกับการคาดการการจัดตั้งรัฐบาลเป็นรายวันจนประชาชนผู้รับข่าวสารเกิดอาการสำลักข้อมูล ดูประหนึ่งว่า ในตลาดการเมืองการเลือกตั้งในครั้งนี้ เกิดการไหลเวียนข้อมูลข่าวสารให้ผู้จะใช้สิทธินำไปประกอบการตัดสินใจได้ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นคุณลักษณะที่ดีของตลาดการแข่งขันทางการเมืองที่มีความสมบูรณ์ คาดหวังที่จะส่งสังคมการเมืองไทย เข้าสู่ประตูประชาธิปไตย และ ความจำเริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การจ้างงานที่ยึดเอานโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองต่าง ๆ มาคาดหมาย

ใครที่เชื่อว่า เศรษฐกิจสังคม การเมือง จะพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปได้จากนโยบายการเลือกตั้งคิดอ่านกันเพียงเท่านี้ ต้องคิดกันใหม่มองให้ไกลขึ้นกว่าเดิม ในระดับที่ต้องหันหัวกลับทบทวนตั้งคำถาม ถามตนเองให้ได้ว่า มาถึงจุดระดับการพัฒนาขณะนี้ แท้ที่จริงประเทศต้องการอะไรกันแน่เป็นลำดับก่อนหลัง หรือเราจำเป็นต้องเอาวาระของคนอื่นหรือประเทศมหาอำนาจอื่นมาเป็นวาระของเรา เพราะการเลือกตั้งช่วงนี้เป็นเวลาเดียวกันกับวาระของบรรดาผู้สร้างเกมส์เปลี่ยนโลก (game changer) ในการบีบบังคับ กำกับ ควบคุม เสรีภาพของบุคคล รวมถึงชาติประเทศต่าง ๆ ในโลกให้อยู่ภายในเงื้อมมือ BIS (Bank International Settlement) ผ่านวาระการใช้เงินดิจิทอลที่ออกโดยธนาคารกลางของแต่ละชาติ หรือ ที่รู้จักกันในนาม CBDC (Center Bank Digital Currency) ซึ่งเป็นการควบคุมปกครองมนุษยชาติด้วยเทคโนโลยี (Technocracy) ที่ไปไกลกว่าลัทธิความเชื่อในทางการเมืองการปกครองที่เราโหยหา ลองผิดลองถูกอยู่ในขณะนี้ แทบเผาตำราทางการเมืองการปกครอง กฎหมาย ทิ้งไปได้เลย ซึ่งผมเห็นว่าเป็นภูมิรัฐศาสตร์ทางการเมือง Geopolitics ของโลกที่สำคัญใหญ่ที่สุดแล้วในตอนนี้ที่สังคมการเมืองไทยต้องใส่ใจติดตาม

คนสร้างเกมส์เปลี่ยนโลกเป็นใครบ้างไม่อาจอรรถาธิบายได้หมดในบทความนี้ ขอให้ผู้อ่านเข้าใจเทียบเคียงกับคณะบุคคลในอัตราร้อยละ 1 % ที่ได้ประโยชน์ควบคุมประชากรโลกอีกร้อยละ 99 % คงผ่านหูผ่านตาผู้อ่านมาบ้าง ที่ใกล้แคบเล็กลงคงหนีไม่พ้นวงการสถาบันการเงินของโลก ที่สำคัญคู่แฝดหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ World Bank และ IMF ธนาคารกลางเอกชนสหรัฐฯ (Federal Reserve System) ที่มีบริษัทย่อยเอกชนทำหน้าที่ BIS (Bank International Settlement) ทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องในการโอนเงินระหว่างแบงค์ผ่านระบบ SWIFT (Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication) เพื่อเป้าหมายให้เงินสกุลดอลล่าร์ถูกใช้อย่างกว้างขวางในทางเศรษฐกิจ จนธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ ในโลกต้องเปลี่ยนเงินของตนเองเป็น ดอลล่าร์ เอาไปฝากสำรอง (Reserve) ไว้กับ IMF เงินดอลล่าร์จึงถูกบังคับให้ใช้สำหรับซื้อขายชำระหนี้ผ่านธนาคารต่าง ๆ ในโลก ทำให้บริษัทเอกชนที่ทำหน้าที่ BIS เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อมาจนเล็งเห็นประโยชน์เมื่อถูกนำไปใช้เพื่อเป็นศูนย์กลางการควบคุม ในยุคการใช้อินเตอร์เน็ท ควอนตัมอินเตอร์เน็ท และ ควอนตัมคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันนี้ จึงเป็นเรื่องที่เหมาะเจาะสอดรับกับแนวความคิดเรื่อง การควบคุมปกครองมนุษย์ด้วยเทคโนโลยี (Technocracy) ที่กล่าวถึงข้างต้น

ความพยายามที่จะใช้เทคโนโลยีมาควบคุมคนเรานั้นมีมาอย่างต่อเนื่องผ่าน หลายแนวคิดทางสังคม เศรษฐกิจการเมือง สหประชาชาติ และองค์การระหว่างประเทศ สถาบันการศึกษา แม้แต่องค์กรเอกชนในค่ายสังกัด ที่สำคัญที่อยากจะกล่าวและถูกใช้แล้วในเวลานี้ภายใต้แนวคิด G3P ที่ย่อมาจาก Global Public-Private Partnership ซึ่งถือว่าผลประโยชน์ได้เสียของทุนนิยม (Stakeholder Capitalist) เป็นใหญ่ ผ่านกลไกในเวที WEF (World Economic Forum), Club of Rome, CFR และอื่น ๆ อีก นโยบายของรัฐบาลต่าง ๆ โดยพยายามดึงอำนาจของรัฐบาลและการกำกับควบคุม ให้มาอยู่ภายใต้การกำกับในบริบทโลก (Global Governances) เสียนั่นเองเป็นปลายทาง นี่คือแก่นสารสาระที่สำคัญสูงสุด การเปลี่ยนอำนาจรัฐบาล (Government) ให้อยู่ภายใต้การกำกับ (Governance) ทำให้ประเทศสูญเสียอธิปไตยของชาติไปหมดทุกเรื่องไม่ต้องสงสัย ดังนั้น BIS (Bank for International Settlement) จึงถูกทำให้เป็นอิสระไม่อยู่ภายใต้กำกับควบคุมตามกฎหมายของชาติใด ๆ ไม่มีฐานะเป็นหน่วยงานของสหประชาชาติ (United Nation) หรือ เป็นหน่วยงานความร่วมมือระหว่างรัฐบาล (Inter-governmental organization) จึงเท่ากับมีอำนาจสูงสุดเหนือรัฐในผืนพิภพนั่นเอง

อ่านต่อเม้นด้านล่าง ⬇️⬇️