ประเทศเดียวในโลกที่ไม่ต้องสำรองเงินตราต่างประเทศหรือทองคำหรือทรัพย์สินอื่นเพื่อใช้เป็นหลักประกันให้กับค่าเงินของประเทศคือประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นผลงานที่ชาญฉลาดในยุค ปธน. นิกสัน เริ่มจากการประกาศยกเลิกการสำรองทองคำในปี 1971 จากนั้นก็เริ่มเจรจากับกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยใช้เทคโนโลยีทางทหารเป็นเครื่องต่อรองแลกกับการบังคับให้ซื้อขายน้ำมันด้วยเงินดอลลาร์ ประเทศไหนให้ความร่วมมือก็จะสามารถซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐได้ในราคามิตรภาพ การเจรจาเริ่มออกดอกออกผลในปี 1973 ซาอุดิอารเบียเป็นประเทศแรกที่ตกลง จากนั้นรัฐอาหรับอื่นๆ ก็ทะยอยตามมา จนในที่สุดการซื้อขายน้ำมันทั้งหมดในโลกต้องซื้อขายด้วยเงินสกุลดอลลาร์เท่านั้น
นั่นคือจุดเริ่มต้นของเปโตรดอลลาร์ และเป็นจุดเริ่มต้นของการผงาดขึ้นเป็นมหาอำนาจอย่างแท้จริงของสหรัฐ เปโตรดอลลาร์ทำให้เงินของสหรัฐเป็นที่ต้องการของตลาดโลก ใครจะซื้อน้ำมันก็ต้องหาแลกเงินสหรัฐ แลกจากไหนกันหละ? ก็จากสหรัฐไงครับ สหรัฐพิมพ์ธนบัตรออกมาได้อย่างอิสระเสรี จะพิมพ์เท่าไหร่ก็ได้ สหรัฐซื้อน้ำมันอาหรับก็พิมพ์แบงค์ไปซื้อ ใครจะมาขอแลกเงินก็พิมพ์มาให้แลกแต่ส่วนต่างเยอะนะ จะให้ดีก็ขายของให้สหรัฐ ขายรถ ขายข้าว ขายแร่ ฯลฯ สหรัฐซื้อหมด อยากได้อะไรก็พิมพ์แบงค์มาซื้อ พิมพ์กันเป็นแบงค์กงเต็กเลยก็ว่าได้ ว่ากันว่าจำนวนเงินดอลลาร์ที่หมุนเวียนในตลาดโลกมากกว่าจำนวนเงินดอลลาร์ที่มีอยู่ประเทศหลายเท่าตัว
เปโตรดอลลาร์ทำให้สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้สหรัฐสามารถบริโภคทรัพยากรของโลกได้อย่างไร้ขีดจำกัด ตราบใดที่โลกยังใช้น้ำมัน ตราบนั้นเงินดอลลาร์ก็สามารถใช้จ่ายได้ทั่วโลก พิมพ์มาใช้ได้ไม่อั้นในขณะที่มูลค่าไม่เคยลดลง ทั้งๆ ที่มันเป็นเพียงกระดาษเปล่า เปโตรดอลลาร์กลายเป็นภาวะจำยอมของทุกประเทศ ทั้งๆ ที่รู้แต่ทำอะไรไม่ได้ และเปโตรดอลลาร์ก็เป็นจุดตายของสหรัฐ เป็นเส้นตายที่ห้ามใครก้าวล่วงอย่างเด็ดขาด
ปี 2000 อิรักเป็นชาติแรกที่ลองดีสหรัฐโดยการซื้อขายน้ำมันด้วยเงินยูโร และทำการค้าขายน้ำมันด้วยเงินยูโรอย่างเป็นทางการในปี 2002 ผลก็คือสงครามอ่าวในปี 2003 สหรัฐถล่มอิรักเละ ด้วยข้อหามีอาวุธ WMD ที่ทุกวันนี้ก็ยังหาไม่เจอเอาไว้ในครอบครอง หลังสงครามจบลง อิรักก็ถูกบังคับให้ซื้อขายน้ำมันด้วยเปโตรดอลลาร์อีกครั้ง ถัดมาจากอิรัก กัดดาฟีแห่งลิเบียก็อาจหาญขึ้นมาท้าทายสหรัฐด้วยการประกาศชักชวนให้อาหรับซื้อขายน้ำมันด้วยเงินสกุลอื่น ผลก็ออกมาอย่างที่รู้กัน ลิเบียเละ
ผ่านจากช่วงถล่มอาหรับ สหรัฐก็เริ่มเปิดศึกกับจีนและรัสเซีย เพราะจีนกับรัสเซียเริ่มจะถอนตัวออกจากการใช้เปโตรดอลลาร์ จีนหันมาใช้เงินหยวนมากขี้นในขณะที่รัสเซียก็เริ่มใช้เงินยูโรกับเงินรูเบิลมากขึ้น นี่เป็นสัญญาณอันตรายสำหรับสหรัฐ แต่สหรัฐจะไปถล่มจีนกับรัสเซียเหมือนกับที่ถล่มอาหรับก็ทำไม่ได้ เลยเป็นที่มาที่ไปของการเปิดสงครามการค้าแบบเต็มรูปแบบกับจีน เล่นทุกทางทั้งขึ้นภาษีทั้งถล่มค่าเงิน งดส่งออกเทคโนโลยี พยายามทำให้จีนอ่อนแอลง ในขณะเดียวกันก็พยายามกดดันรัสเซีย ขยายนาโต้ ปั้นหุ่นกระบอกยูเครน ฝีมือสหรัฐล้วนๆ พวกยุโรปแค่ยืนเป็นตัวประกอบ สงครามยูเครนก็สหรัฐนี่แหละ เพราะฟางเส้นสุดท้ายที่วางลงบนหลังอูฐปูตินคือฐานยิงขีปนาวุธพิสัยกลางของสหรัฐ ของสหรัฐครับไม่ใช่ของนาต้งนาโต้อะไรทั้งนั้น
ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจอะไรเลยที่สหรัฐจะออกงิ้วก่อนใคร วาดลวดลายเยอะกว่าใครในสงครามรัสเซีย-ยูเครน โอกาสทองในการถล่มรัสเซียให้จมดิน กะพังเศรษฐกิจรัสเซียให้ยับเยิน แถมลากอียูเข้ามาจมน้ำด้วย กินสองต่อเข้าฮอส นอกจากจะแบนนั่นแบนนี่แล้วล่าสุดยังอนุมัติเงิน 13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในการช่วยเหลือยูเครน ประเทศโคตรพ่อโคตรแม่อะไรรวยขนาดนั้น แจกเงินเป็นว่าเล่น ชิวๆ ครับ แม่งพิมพ์แบงค์กงเต็กได้เอง จะเอากี่หมื่นกี่แสนล้านก็ได้ สหรัฐรู้ครับว่ายูเครนยังไงก็แพ้รัสเซีย สิ่งที่สหรัฐต้องการก็คือลากรัสเซียให้ติดหล่มยูเครนให้นานที่สุด ให้รัสเซียล่มจมให้มากที่สุด ยูเครนชนะก็เป็นของแถม ยูเครนแพ้ก็ไม่เสียหาย สหรัฐได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง ใช้ความตายของคนยูเครนเล่นรัสเซียได้อีกนาน
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อแบงค์กงเต็กที่เรียกว่าเปโตรดอลลาร์ ถ้าเปโตรดอลลาร์ล่มสลาย มันก็หมายถึงสหรัฐถึงคราวล่มจม ค่าเงินดอลลาร์จะดิ่งนรก เศรษฐกิจของสหรัฐจะพังพินาศ ต่อจากนี้ไปจะต้องหาเงินมาซื้อของไม่ได้พิมพ์แบงค์กงเต็กมาแลกของฟรีๆ ได้เหมือนแต่ก่อน แถมยังเป็นหนี้เค้าไปทั่วโลก เจ้าหนี้จะมารุมทึ้งกันก็คราวนี้
สหรัฐกับเปโตรดอลลาร์ มันก็เหมือนกับหมาที่วิ่งไล่กัดหางตัวเอง หยุดวิ่งไล่กัดหางเมื่อไหร่ก็ตายเมื่อนั้น
สวัสดีครับ

Cr. FB.ปรัตยา โสมสืบสาย