- FB_IMG_1646923965293.jpg (90.51 KiB) เปิดดู 398 ครั้ง
ผู้ป่วยโรคหัวใจระยะสุดท้ายที่ได้รับการปลูกถ่ายหัวถ่ายหัวใจหมูเมื่อสองเดือนที่แล้ว เสียชีวิตแล้ว
.
เดวิด เบนเน็ตต์ (David Bennett) ชายวัย 57 ปีซึ่งป่วยเป็นโรคหัวใจระยะสุดท้ายตัดสินเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจหมูที่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรม เมื่อวันที่ 7 มกราคม และมีชีวิตรอดมาได้นาน 2 เดือนก่อนอาการจะค่อยๆ ทรุดลงในสัปดาห์ก่อน และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 มีนาคม
.
แน่นอนว่าก่อนที่เบนเน็ตต์จะเข้ารับการผ่าตัด เขารับรู้ความเสี่ยงอยู่แล้ว แต่สุดท้ายชายวัยใกล้เกษียณก็ตัดสินใจลองสู้อีกครั้ง เพื่อหวังว่าจะได้มีเวลากลับไปใช้กับครอบครัวให้นานกว่านี้ เนื่องจากก่อนผ่าตัด เขาอยู่ในอาการโคม่า ต้องใส่อุปกรณ์ประคองชีวิตอยู่ตลอด และมีสิทธิ์จะจากไปได้ทุกนาที
.
หลังจากผ่าตัด เบนเน็ตต์ได้กลับมาใช้ชีวิตสมใจอยาก แม้จะเป็นเพียงเวลาไม่นานนัก แต่เขาได้ใช้เวลากับครอบครัว ดูซูเปอร์โบวล์ การแข่งขันชิงแชมป์อเมริกันฟุตบอล และพูดว่าอยากจะกลับไปหาสุนัขตัวโปรด ‘เจ้าลัคกี้’ อีกครั้ง แต่ยังไม่ทันได้ทำอย่างนั้น อาการเขาก็แย่ลง ก่อนจะจากไปอย่างสงบ
.
ส่วนสาเหตุการณ์เสียชีวิต แพทย์ระบุว่ายังไม่สามารถบอกสาเหตุที่แท้จริงได้ และเร็วเกินไปที่จะสรุป เพราะกรณีของเบนเน็ตต์ ใช้หัวใจหมูซึ่งผ่านการดัดแปลงพันธุกรรมให้เข้ากับร่างกายมนุษย์มาแล้ว และแพทย์ที่ติดตามอาการบอกว่า 1 เดือนหลังการผ่าตัด ก็ยังไม่เห็นสัญญาณของการปฏิเสธอวัยวะ และดูเหมือนร่างกายจะตอบรับหัวใจใหม่ที่เข้าไปได้ดีในระดับหนึ่ง แต่แพทย์เตือนว่า ร่างกายของเบนเน็ตต์นั้นยังอ่อนแอมาก และอาจเกิดอาการแทรกซ้อนได้
.
ท้ายที่สุด แม้เบนเน็ตต์จะไม่ได้มีชีวิตยืนยาว แต่การเข้ารับผ่าตัดปลูกหัวใจหมูครั้งนี้ก็เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของวงการแพทย์ในการศึกษาด้านปลูกถ่ายอวัยวะสัตว์สู่คน และชุดข้อมูลสำคัญในการนำไปต่อยอดในอนาคต
.
ลูกชายของเบนเน็ตต์ก็พูดถึงพ่อว่า “การจากไปของเขาเป็นจุดเริ่มต้นของความหวัง ไม่ใช่จุดจบ” ขณะที่บาร์ตลีย์ กริฟฟิธ (Bartley Griffith) ศัลยแพทย์ที่ผ่าตัดให้เบนเน็ตต์บอกว่า คนไข้ของเขาเป็นผู้ป่วยที่กล้าหาญและมีเกียรติเพราะเขาได้ต่อสู้อย่างเต็มที่
.
กริฟฟิธเสริมว่า การผ่าตัดครั้งสำคัญนี้ทำให้โลกเข้าใกล้การแก้ปัญหาอวัยวะขาดแคลนมากขึ้นอีกก้าว และอีกนัยหนึ่ง มันยังอาจช่วยแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ได้ด้วย ซึ่งหลังจากนี้ทีมแพทย์จะต้องทำงานร่วมกันเพื่อเอาชนะอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุด นั่นก็คือการปฏิเสธอวัยวะของร่างกาย ซึ่งเป็นกลไกตามธรรมชาติที่จะเกิดขึ้น เมื่อร่างกายตรวจจับว่ามีอวัยวะแปลกปลอมจากสปีชีส์ต่างกันเข้ามา มันจะเริ่มทำลายในเวลาไม่กี่นาที
.
.
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/health-60681493
https://www.reuters.com/world/us/us-man ... ce=twitter
#Brief #TheMATTER