ฮั่นแน่... สหรัฐฯมามุกใหม่แต่ลูกไม้เก่า ลูกไม้เก่าอย่างไรรึ เล่าให้หน่อยดิ? ได้ครับ... จำตอนที่จีนเริ่มก่อตั้งธนาคาร AIIB ขึ้นมาในตอนแรกๆได้ไหม ตอนนั้นสหรัฐฯเข้าขัดขวางทุกวิถีทาง ทั้งประโคมข่าวเพื่อดิสเครติตจีนสารพัดผ่านสื่อฯกระแสหลักและสื่อฯในเครือของตัวเอง สหรัฐฯพยายามกดดันกลุ่มประเทศต่างๆที่เป็นพันธมิตรของตนในยุโรปไม่ให้เข้าร่วมในธนาคาร AIIB กับจีน แต่สุดท้ายก็ห้ามใครไม่ได้เลย ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน และประเทศอื่นๆในยุโรปและเอเซียต่างก็เข้าร่วมกับจีนเป็นอย่างมาก (ไทยก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยนะ อย่าถามอีกหละว่าไทยร่วมกับ AIIB ด้วยหรือเปล่า?)
รัสเซียได้รับสิทธิ์พิเศษแม้จะเข้าสมัครเป็นสมาชิกของธนาคาร AIIB ภายหลัง โดยจีนจัดให้รัสเซียเป็นสมาชิกในกลุ่มประเทศเอเซีย ซึ่งจะมีสิทธิพิเศษมากกว่าสมาชิกที่ไม่ใช่เอเซีย เล่นเอาพวกยุโรปพูดไม่ออกเหมือนกันแต่ใครจะกล้าคัดค้านพี่จีนได้หละ ฮ่าๆๆ (ในฐานะคนเอเซียด้วยกันขอหัวเราะดังๆให้สะใจหน่อยนะ มันปลื้มมมมมอ่ะ) ต่อมาสหรัฐฯทนไม่ไหวจึงส่งบิ๊กบอสของ IMF เข้าไปทาบทามจีนว่าอยากจะมีเอี่ยวในธนาคาร AIIB ด้วย น๊านนนน… ให้มันได้อย่างนี้สิ ก็ไหนตอนแรกบอกว่าไม่ดีไง สุดท้ายก็กลืนน้ำลายตัวเอง แต่จีนก็เหมือนจะแกล้งทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินเสียงนกเสียงกาจาก IMF ซะอย่างนั้นแหละ อยากพูดอะไรก็พูดไป แต่จีนจะเดินหน้าซะอย่าง งานนี้อเมริกาก็เลยรับประทานแห้ว (เคยเล่าให้ฟังแล้วนะ วันนี้เอาย่อๆสำหรับผู้ที่มาใหม่เท่านี้ก่อนนะครับ)
จำได้ไหมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้เล่าให้ฟังว่าทางรัสเซียเชิญกรีซเข้าร่วมกับธนาคาร New Development Bank (เรียกชื่อย่อว่า NDB เป็นชื่อใหม่ของธนาคารในกลุ่ม BRICS) ซึ่งทางรัฐบาลกรีซดูเหมือนจะชอบอกชอบใจที่รัสเซียให้เกียรติเชิญเข้าร่วมในกลุ่ม BRICS ด้วย นี่เป็นการแก้เผ็ดสหรัฐฯโทษฐานที่พยายามจะเป่าหูให้กรีซเปลี่ยนใจยกเลิกโครงการท่อแก๊สสาย Turkish Stream ของรัสเซีย แล้วหันมาใช้ท่อแก๊สของสหรัฐฯกับยุโรปแทน แต่ทางกรีซก็ยังไม่ได้รับข้อเสนอจากรัสเซียอย่างเป็นทางการ เมื่อดูแล้วก็มีแนวโน้มความเป็นไปได้ว่ากรีซอาจจะเข้าร่วมกับ BRICS ในอนาคตซะด้วยสิ
สหรัฐฯและอียูรู้ว่าถ้ากรีซมาร่วมกับ BRICS แน่นอนชาติอื่นๆในอียูอาจจะเดินตามกรีซด้วยก็ได้ เพราะขนาดธนาคาร AIIB ของจีนกลุ่มอียูยังเข้าไปร่วมเลย แล้วนี่ธนาคาร NDB ซึ่งก็มีจีนเข้าถือหุ้นมากกว่าชาติสมาชิกอื่นๆด้วยเช่นกัน และมีทุนเริ่มต้นเท่ากับ AIIB ด้วยคือ $100 billion (หนึ่งแสนล้านเหรียญสหรัฐฯ) เงินไม่ใช่น้อยๆนะนั่นหนะ แทนที่สหรัฐฯจะออกมาคัดค้าน และเล่นมุกดิสเครดิตธนาคาร NDB ของกลุ่ม BRICS แบบที่ทำมาแล้วกับกรณีธนาคาร AIIB สหรัฐฯก็ส่งธนาคารโลก (World Bank) ออกมาพูดว่าธนาคารโลก (ที่มีสหรัฐฯถือหุ้นรายใหญ่กุมหัวเรืออยู่) พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับธนาคารใหม่ของ BRICS โดยยกเหตุผลว่า เนื่องจาก World Bank มีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้มายาวนานถึง 70 ปี ธนาคารแห่งใหม่สามารถที่จะเรียนรู้ได้เร็วขึ้นโดยอาศัยพื้นฐานประสบการณ์ของ World Bank
แหม… พี่แกมามุกนี้เลยนะ ต้องการอยากจะเข้ามาวางกลไกบริหารจัดการในธนาคาร NDB ก็บอกเหอะ และหากเป็นไปได้ก็คงอยากจะให้ NDB ช่วยแบ่งหุ้นบางส่วนให้กับสหรัฐฯในนามของ World Bank ซักหน่อยก็จะดีหละสิ กลุ่ม BRICS นี้เขาฉลาดพอ เพราะมีที่ปรึกษาอาวุโสนั่งทำงานอยู่ใน World Bank ด้วย และสมาชิกส่วนมากของ BRICS ก็ถือหุ้นอยู่ใน AIIB ด้วยเช่นกัน ที่สำคัญที่ทำให้สหรัฐฯต้องรีบขยับก็เพราะว่า BRICS ประกาศว่าจะเปิดกองทุนกู้ยืมภายในสิ้นปีนี้หรืออย่างช้าสุดก็ราวต้นปีหน้า
การที่นายกฯของกรีซเดินทางไปพบกับปูตินเมื่อเดือนที่ผ่านมา ทำให้ทั้งสหรัฐฯและอียูต่างก็พากันนั่งไม่ติด พากันออกมาแสดงความกังวลใจว่ารัสเซียจะปล่อยเงินกู้ให้กรีซหักหน้าทรอยก้า (IMF, EU, ECB) จึงพากันเตรียมจะแซงชั่นรัสเซียรอบใหม่และกดดันรัสเซียเพิ่มขึ้นอีก แต่สุดท้ายปูตินก็ออกมาบอกว่ารัสเซียไม่ได้ปล่อยเงินกู้ให้กรีซเพื่อเอาไปใช้หนี้ทรอยก้าหรอก แค่มาเจรจากันเรื่องหาทางช่วยเหลือผลไม้และสินค้าการเกษตรของกรีซเท่านั้นเอง จึงทำให้ทั้งสหรัฐฯและอียูหายจากอาการอกสั่นขวัญหายได้ในระดับหนึ่ง แต่ที่ทำให้สหรัฐฯหงุดหงิดก็คือเรื่องท่อแก๊สของรัสเซียกับกรีซนี่แหละ มันจึงบานปลายกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตในมาซิโดเนีย
อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะ แอ็ดมินมองอย่างนี้ รัสเซียจะไม่ปล่อยเงินกู้ให้กรีซโดยตรง เพราะจะทำให้สหรัฐฯและอียูหาเรื่องรัสเซียได้ง่าย แต่ถ้าให้กรีซเข้าร่วมกับ BRICS และ BRICS ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซแทน แบบนี้ทั้งสหรัฐฯและอียูก็จะตำหนิรัสเซียไม่ได้ เพราะทำในนามของ BRICS ซึ่งประกอบด้วย บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีน และแอฟริกาใต้ ถ้าอียูและสหรัฐฯโจมตี BRICS ก็เท่่ากับโจมตีห้าประเทศนี้ด้วย โดยเฉพาะจีนกับอินเดีย สหรัฐฯและอียูจะกล้าเล่นของแข็งหรือ? เจอมุกนี้ของปูตินเข้า สหรัฐฯถึงกับส่ง World Bank ออกมาทาบทามกันเลยนะ ฝีมือมันคนละชั้นกันจริงๆนะนี่
อ้อ… แถมให้อีกนิดนึง ทางกลุ่ม BRICS มีโครงการจัดตั้งสถาบันจัดอันดับโลก (rating agency) ทางด้านเศรษฐกิจและอื่นๆของตนขึ้นมาต่างหาก ซึ่งมีผู้เสนอว่าควรจะเป็นอิสระจากการควบคุมของรัฐบาลต่างๆด้วย เนื่องจากพบว่า rating agency รายใหญ่ๆทั้ง 3 สำนักของตะวันตกเช่น Fitch, Moody และ Standard & Poor ล้วนถูกครอบงำโดยอิทธิพลทางการเมือง ทางรัฐศาสตร์ภูมิภาค (geopolitics) จากรัฐบาลของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯและยุโรปด้วยกันทั้งนั้น
ดังนั้นทาง BRICS จึงต้องการที่จะจัดตั้งสถาบันจัดอันดับของตนเองขึ้นมาแข่งกับฝั่งตะวันตก แต่เพื่อความน่าเชื่อถือจึงบอกว่าให้ปลอดจากการควบคุมของรัฐบาล ซึ่งในความเป็นจริงนั้นเป็นไปได้ยาก เพราะองค์กรเหล่านี้ต้องมีเงินอุตหนุนมีค่าใช้จ่ายในการทำการวิจัยและบริหารจัดการต่างๆมากมาย ในทางเทคนิคนั้นรัฐบาลเหล่านั้นอาจจะสนับสนุนโดยผ่านบริษัทเอกชน หรือองค์กรอื่น หรือผ่านการซื้อโฆษณาแทน เพราะเป้าหมายหลักก็คือกลุ่ม BRICS ต้องการจะก่อตั้งสถาบันจัดอันดับของตนเองขึ้นมา โดยไม่ต้องพึ่งพาสถาบันจัดอันดับจากกลุ่มการเมืองและกลุ่มทุนฝั่งสหรัฐฯและยุโรปนั่นเอง ถ้าหากตั้งขึ้นมาแล้วถูกฝั่งสหรัฐฯและยุโรปเข้ามาควบคุมแทนแล้วจะตั้งขึ้นมาทำไมหละ
The Eyes
19/05/2558
----------
http://sputniknews.com/business/2015051 ... 99947.html
http://sputniknews.com/europe/20150518/1022287013.html
http://sputniknews.com/business/2015051 ... 12182.html
http://sputniknews.com/europe/20150512/1022060679.html
http://sputniknews.com/business/2015051 ... 97068.html