https://vk.com/theeyesproject
Facebook Page : Active
https://www.facebook.com/fisont" />

สหรัฐฯและอียูจริงใจสานสัมพันธ์กับรัสเซียจริงหรือ?

ปอกเปลือก ทรราช .
ทันข่าวสาร ทันโลก รับรู้ข่าวสารต่างๆที่สื่อบ้านเราไม่ค่อยได้นำเสนอกัน
เปิดโลกทัศน์ในการรับรู้ข่าวสารจากทั่วทุกมุมโลก ทันข่าว ทันโลก ทันเหตุการณ์ ตีแผ่เรื่องราวทุกๆเรื่องราวที่มีความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นในทุกๆมุมของโลก
https://vk.com/theeyesproject
Facebook Page : Active
https://www.facebook.com/fisont
ภาพประจำตัวสมาชิก
admin
Administrator
Administrator
โพสต์: 13570
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. 21 พ.ค. 2015 12:14 pm
กลุ่ม: ผู้ดูแลระบบ

สหรัฐฯและอียูจริงใจสานสัมพันธ์กับรัสเซียจริงหรือ?

โพสต์โดย admin » พฤหัสฯ. 21 พ.ค. 2015 2:56 pm

ในโพสต์ก่อนหน้านี้พูดถึงแผนการขยายความขัดแย้งในสาธารณรัฐมาซิโดเนียโดยนาโต้และตะวันตกซึ่งอาจจะเป็นการจุดชนวนสงครามให้เกิดขึ้นในภูมิภาคอดีตยูโกสลาเวียกันไปแล้ว คราวนี้หันมาดูความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯและอียูที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย พร้อมทั้งมุมมองจากอดีตนายกรัฐมนตรีของเยอรมันดูบ้างว่ามีมุมมองเกี่ยวกับท่าทีในปัจจุบันจากฝั่งตะวันตกต่อรัสเซียอย่างไรบ้าง
เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 58 ที่ผ่านมาสหรัฐฯได้ส่งจอห์น แคร์รี่ รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯเข้าพบปูตินพร้อมคณะ ทำทีเป็นขอเจรจาสานสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯอีกครั้ง ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งยังซ่อนมีดไว้ข้างหลัง พร้อมที่จะจ้วงแทงรัสเซียได้ทุกเมื่อ ซึ่งได้ลงข่าวนี้ให้ทราบไปแล้ว หลังจากจอห์น แคร์รี่เดินทางกลับ หนึ่งสัปดาห์ต่อมา สหรัฐฯก็ส่งนาง Victoria Nuland (เจ้าของคำพูด "F*ck the EU!") ผู้ช่วยรมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯประจำอียูเดินทางมาพบรมช.ต่างประเทศของรัสเซียที่กรุงมอสโควในวันที่ 18 พ.ค. 58 ที่ผ่านมา
ต่อมาวันท่ี่ 18 พ.ค.58 ทางนาย Sergei Lavrov รมว.ต่างประเทศของรัสเซียก็ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการกดดันรัสเซียจากสหรัฐฯว่า "การที่จอห์น แคร์รี่เดินทางมาที่เมือง Sochi ประเทศรัสเซียในครั้งนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าสหรัฐฯล้มเหลวในความพยายามที่จะโดดเดี่ยวรัสเซีย ประเด็นต่างๆที่สหรัฐฯยกขึ้นมาปรึกษากับรัสเซียที่เมืองโซชินี้ไม่ใช่มีเฉพาะเรื่องยูเครนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงซีเรีย เยเมน และเรื่องอื่นๆอีกด้วย ชุดคำถามเหล่านี้บอกให้รู้ว่าปัญหาเหล่านี้ยากที่จะแก้ไขได้หากปราศจากรัสเซีย"
ทางรัสเซียได้แนะนำสหรัฐฯไปว่า กรุงวอชิงตันควรจะกล่อมกรุงเคียฟไม่ให้ใช้กำลังทางทหารในภูมิภาคดอนบาสส์ (Donbass) โดยเน้นการแก้ไขวิกฤตด้วยการเจรจาตามข้อตกลงกรุงมินส์ก
หลังจากแคร์รี่กลับไปแล้ว สหรัฐฯก็ส่งนาง Victoria Nuland มาที่กรุงมอสโคว์ แต่คงไม่มีวาสนาได้เข้าไปจับมือกับปูตินได้หรอก เพราะว่าฐานะทางการเมืองและการทูตมันคนละระดับกัน นางจึงทำได้แค่เข้าไปคุยกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศของรัสเซียเท่านั้น ประเด็นที่นางจะมาคุยกับทางรัสเซียในครั้งนี้ก็คือเรื่องยูเครน นาง Victoria Nuland กล่าวว่าการพูดคุยกันครั้งนี้จะมุ่งไปที่การจัดการเลือกตั้งโดยอิสระและยุติธรรมและการให้ความร่วมมือในการหยุดยิงในยูเครนตะวันออกเพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงกรุงมินส์ก
ในวันเดียวกันนี้ทางเพนตาก้อนของสหรัฐฯก็ออกแถลงการณ์ที่มีท่าทีแข็งกร้าวต่อรัสเซียโดยยังยืนยันที่จะให้การสนับสนุนอาวุธแก่กรุงเคียฟทุกช่องทางที่เป็นไปได้ ก.กลาโหมของสหรัฐฯได้ให้การสนับสนุนทางกองทัพยูเครนเฉพาะส่วนที่เปิดเผยได้มาแล้วมีมูลค่าเกือบ $200 million (ประมาณ 6.7 พันล้านบาท) เช่นเครื่องแบบทหาร ยานพาหนะติดอาวุธ ระบบเรด้าต่อต้านปืนใหญ่ เวชภัณฑ์ การฝึกอบรมให้กับทหารของยูเครน...สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าสภาคองเกรสของสหรัฐฯได้อนุมัติแผนการสนับสนุนอาวุธหนักให้กับยูเครนแล้ว ซึ่งเสนอโดยรัฐบาลของนายบารัคโอบาม่า
ในขณะที่นาง Victoria Nuland ยังอยู่ในมอสโคว์เจรจาเรื่องหยุดยิงในยูเครนตะวันออกอยู่นั้น วันที่ 19 พ.ค.59 สำนักข่าว RT news ของรัสเซียก็รายงานว่า กองทัพของยูเครนได้ยิงจรวดโจมตีอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งซึ่งทางยูเครนอ้างว่าเป็นที่อยู่ของฝ่ายกบฎในโดเน็ทส์กในตอนกลางคืนของวันที่ 18 พ.ค.58 ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิต 1 ราย รายงานข่าวบอกว่าการโจมตีครั้งนี้ยาวนานถึง 2 ชั่วโมง และถือว่าเป็นการโจมตีที่ร้ายแรงที่สุดในเดือนนี้
ส่วนนาง Victoria Nuland ออกมากล่าวว่า "ไม่มีตัวบ่งชี้จากการข่าวในฝ่ายของพวกเรา (สหรัฐฯ) หรือจากที่ปรึกษาของเราในกรุงเคียฟว่ามีบุคคลใดๆที่อยู่ฝั่งยูเครนหรือผู้นำคนใดในยูเครนมีเจตนาที่จะเปิดสงครามขึ้นมาใหม่"
นั่นแหละนิสัยของสหรัฐฯ ก็มันบึ้มๆกันอยู่หล่อนก็ยังบอกว่าไม่มีการข่าวว่าจะสงครามครั้งใหม่เฉยเลย ขนาดครั้งนี้ก็ยังไม่จบเลยหล่อนยังคิดไปถึงครั้งใหม่เลยรึ? ถึงมีการข่าวเชื่อหรือว่าหล่อนจะพูดความจริงออกมา หล่อนก็เป็นเพียงตุ๊กตาตัวหนึ่งที่เขาส่งมาสร้างภาพให้ดูว่าสหรัฐฯกำลังหันมาเจรจากับรัสเซียอยู่นะ แต่ในขณะเดียวกันทางกลาโหมของสหรัฐฯ บอกว่าจะสนับสนุนอาวุธทุกช่องทางให้กับยูเครนนี่นะ?
Ron Paul อดีตส.ส.จากรัฐเท็กซัสและอดีตที่ปรึกษาด้านกิจการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกากล่าวว่า "การถล่มโดเน็ทส์กในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นาง Nuland ได้ยกส้นเท้าของเธอออกจากกรุงเคียฟและไปเยี่ยมกรุงมอสโคว์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน แต่ละครั้งที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯได้เข้าไปยังภูมิภาคนั้น ก็จะเกิดการโจมตีตามหลังขึ้นมา (หมายถึงโจมตีกันระหว่างคู่ขัดแย้ง ไม่ใช่โจมตีเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ) จำได้ว่าผอ.ซีไอเอ ได้ไปอยู่ในที่นั่นสองครั้ง และจากนั้นก็เกิดการโจมตีกันขึ้นมาทันที นี่จึงมองว่าเป็นเพียงรูปแบบหนึ่งเท่านั้น"
คราวนี้มาดูความคิดเห็นจากนาย Gerhard Schröder อดีตนายรัฐมนตรีของเยอรมันนีเกี่ยวกับท่าทีของยุโรปที่มีต่อรัสเซียในช่วงนี้กันบ้างว่า มหาอำนาจยุโรปต้องการจะเป็นมิตรกับรัสเซียจริงๆหรือไม่? นาย Gerhard Schröder กล่าวว่า "ชาติตะวันตกดำเนินนโยบายด้านต่างประเทศกับรัสเซียอย่างไม่เหมาะสมมาโดยตลอด กลุ่มประเทศในตะวันตกคุยกันแต่เรื่องจะขยายการแซงชั่นต่อรัสเซียให้รุนแรงขึ้นเท่านั้น และแทบจะไม่มีการพูดถึงว่าจะหยุดมันได้อย่างไรเลยหลังจากที่กระบวนการบางอย่างในยูเครนบรรลุเป้าหมายแล้ว"
เมื่อวานนี้ (19 พ.ค.58) มีรายงานข่าวจากทำเนียบขาวมาว่าทางกลุ่ม G7 จะจัดประชุมกันขึ้นที่โรงแรม Schloss Elmau ในเยอรมัน ระหว่างวันที่ 7-8 มิถุนายนนี้ ตามรายงานข่าวบอกว่าจะมีการนำเรื่องการแซงชั่นรัสเซียมาพูดคุยด้วย ทางเลขาฯโฆษกของทำเนียบขาวกล่าวว่า การแซงชั่นได้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของรัสเซียเป็นอย่างมาก (ไม่ใช่เฉพาะรัสเซียหรอก โดนกันทั่วหน้าแหละ สหรัฐฯเองก็โดนไม่น้อย อียูอ่วมยิ่งกว่ารัสเซียซะอีก ไม่งั้นสหรัฐฯจะส่งจอห์น แคร์รี่ไปง้อรัสเซียถึงที่รึ)
นักวิเคราะห์มองว่าเดิมทีนั้นสหรัฐฯและอียูยกเรื่องไคร์เมียเป็นข้ออ้างในการทำแซงชั่นรัสเซีย ต่อมาก็ยกเรื่องวิกฤตในยูเครนตะวันออกเป็นข้ออ้างในการทำแซงชั่นรัสเซียอีกเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าปัจจุบันนี้ประเด็นเรื่องไคร์เมียจะตกจากโต๊ะประชุมไปซะแล้ว โดยหันมาเล่นเรื่องการไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงกรุงมินส์กแทน ซึ่งทางสหรัฐฯและอียูมักจะใช้เป็นข้ออ้างเพื่อที่จะไม่ยกเลิกแซงชั่นและเพิ่มการกดดันรัสเซียว่ามีการฝ่าฝืนข้อตกลงเจรจาสันติภาพ เป็นเหตุให้ยังไม่สามารถยกเลิกแซงชั่นรัสเซียได้
ก็พอเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯไปถึงยูเครนหรือรัสเซียทีไร พวกกองทัพยูเครนก็บึ้มใส่ DPR/LPR ทุกที พวกนั้นก็ต้องตอบโต้กลับเพื่อเป็นการป้องกันตัวเอง แล้วอย่างนี้จะให้สงบและหยุดยิงกันได้อย่างไร? มันก็เหมือนกรณีซาอุดิบอกให้กลุ่มฮูติวางอาวุธในขณะที่ตัวเองส่งเครื่องบินรบไปทิ้งระเบิดใส่บ้านเขาและส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในเยเมนนั่นแหละ เมื่อเกิดเหตุการณ์ปะทะกันขึ้นระหว่างกองทัพทั้งสองฝ่าย พวกอียูกับสหรัฐฯก็มาลงรัสเซียอีก ก็หาเรื่องกันไปอย่างนี้แหละ แต่อย่าลืมนะรัสเซียก็ไม่ได้อยู่เฉยเหมือนกัน มิตรประเทศในอียูหลายประเทศก็เอียงมาทางรัสเซียเพิ่มขึ้น ไหนจะนอกอียูเช่นในเอเซีย แอฟริกาและลาตินอเมริกาอีกเล่า ถ้าจะวัดสายป่านกันนั้นเศรษฐกิจที่กำลังง่อนแง่นของอียูจะสู้รัสเซียไหวรึ?
The Eyes
20/05/2558
----------
http://sputniknews.com/politics/2015051 ... 80097.html
http://sputniknews.com/us/20150518/1022275220.html
http://sputniknews.com/politics/2015051 ... 84108.html
http://rt.com/news/259825-civilian-kill ... g-donetsk/
http://sputniknews.com/europe/20150519/1022332212.html
http://sputniknews.com/politics/2015051 ... 38798.html
http://sputniknews.com/columnists/20150 ... 22068.html
http://sputniknews.com/russia/20150519/1022319195.html

11212591_1670966103123523_7215683580377581382_o.jpg
11212591_1670966103123523_7215683580377581382_o.jpg (122.32 KiB) เปิดดู 541 ครั้ง


11313112_1670966129790187_2024978060701933126_o.jpg
11313112_1670966129790187_2024978060701933126_o.jpg (100.2 KiB) เปิดดู 541 ครั้ง


1014697_1670966086456858_5211769942877354085_o.jpg
1014697_1670966086456858_5211769942877354085_o.jpg (77.39 KiB) เปิดดู 541 ครั้ง


11115245_1670966116456855_1253068155864499802_o.jpg
11115245_1670966116456855_1253068155864499802_o.jpg (83.85 KiB) เปิดดู 541 ครั้ง



ย้อนกลับไปยัง

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: 1 และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน

cron