ยุทธวิธีป้องกันการถูกแซงชั่นจากอียูในอนาคตของรัสเซีย

ที่ผ่านมาอเมริกาต้องการจะขยายอำนาจของตัวเองโดยลดคู่แข่งมหาอำนาจฝ่ายตรงข้ามลงด้วยมาตรการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปั้นข่าวใส่ร้ายประเทศที่ไม่ยอมทำตามที่อเมริกาต้องการหรือใช้เรื่องประชาธิปไตยบ้าง สิทธิมนุษยชนบ้าง การก่อการร้ายบ้าง หรือกล่าวหาว่าความเจริญด้านเทคโนโลยีของประเทศอื่นที่ไม่ใช่พันธมิตรของอเมริกาเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงของสหรัฐฯและบีบให้ประเทศพันธมิตรร่วมกันแซงชั่นกดดันประเทศเหล่านั้นอยู่เรื่อยๆ สำหรับประเทศไหนที่อ่อนแอด้านกองทัพและเศรษฐกิจสหรัฐฯก็จะชวนชาติพันธมิตรของตนยกทัพไปถล่มด้วยตัวเอง แต่ถ้าประเทศไหนมีอาวุธที่ทันสมัยและมีกองทัพที่แข็งแรงอเมริกาก็จะไม่เสี่ยงส่งคนของตัวเองไปตายในตอนแรก แต่จะยุให้ผู้คนในประเทศนั้นๆแตกแยกความสมัคคีและเข่นฆ่ากันเองก่อนจากนั้นก็ตลบหลังซ้ำเข้าไปอีกรอบแล้วก็ทำตัวเป็นผู้จัดการรัฐบาลของประเทศนั้นๆด้วยตัวเองอย่างกรณีของอิรัคและยูเครนนี้เป็นต้น
กับรัสเซีย จีน และไทยอเมริกาก็พยายามใช้แผนนี้มาตลอดแต่ไม่ได้ผล เพราะประชาชนผู้รักชาติส่วนมากในประเทศเหล่านี้รู้ทันแผนชั่วของรัฐบาลอเมริกา แต่กระนั้นฝั่งสหรัฐฯก็ไม่ยอมรามือง่ายๆยังใช้สื่อฯหลักของตนปั้นข่าวโจมตีประเทศที่ไม่ยอมทำตามความต้องการของสหรัฐฯอยู่เรื่อยๆ
การที่อเมริกาพยายามจะทำลายความมั่นคงและด้านเศรษฐกิจของรัสเซียที่เป็นหอกข้างแคร่คู่แข่งคนสำคัญของอเมริกาให้ได้ โดยทำได้สำเร็จแล้วครั้งหนึ่งในการทำให้สหภาพโซเวียต (1922–1991) ล่มสลายแยกออกจากกันเกิดเป็นประเทศเล็กประเทศน้อยในเวลาต่อมา แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ของโซเวียตเก่าก็ยังไม่พังอย่างที่อเมริกาต้องการเพราะกลายมาเป็นประเทศใหม่ที่ชื่อว่า "รัสเซีย" ในทุกวันนี้แทน
ล่าสุดอเมริกาก็บีบให้ประเทศพันธมิตรในยุโรปร่วมกันแซงชั่นรัสเซีย โดยอ้างกรณีวิกฤตยูเครนตะวันออกเป็นเหตุผลในการค่ำบาตรในครั้งนั้น รัสเซียก็ตอบโต้ด้วยการแซงชั่นอียูกลับคืนบ้างด้วยการสั่งห้ามนำเข้าอาหารและผลิตผลทางการเกษตรจากกลุ่มประเทศอียู อียูพึ่งจะมานึกได้เอาตอนปลายว่าทำแบบนี้ก็ยิ่งเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจของอียูและไม่เป็นผลดีต่ออียูด้วย ไม่น่าไปหลงฟังคำยุของอเมริกาเลย ดังนั้นการแซงชั่นรัสเซียรอบที่สองตามที่อเมริกาต้องการจึงถูกเลื่อนออกไปเรื่อยๆโดยไม่มีกำหนด
ส่วนเหล่าผู้นำประเทศเล็กๆในอียูที่เป็นพันธมิตรของรัสเซียอย่างกรีซ ไซปรัซ และฮังการี ที่ได้รับผลกระทบในทันทีต่างก็พากันออกมาตำหนิประเทศมหาอำนาจในอียูด้วยกันว่าขาดวิสัยทัศน์ที่ทำอย่างนั้นกับรัสเซียและแนะนำให้หันมาจับมือกับรัสเซียจะดีกว่าเพื่อความเจริญในด้านเศรษฐกิจกับทุกฝ่าย
ล่าสุดทางรัฐบาลของกรีซออกมาขอร้องให้ทางรัสเซียอนุญาตให้นำเข้าผลไม้ของกรีซบางประเภทเช่น สตอเบอร์รี่ ส้ม ท้อ กีวี เข้ารัสเซียบ้างเพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรของกรีซ
แล้วรัสเซียจะทำอย่างไร? ฝั่งรัสเซียบอกว่ารัสเซียอาจจะผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรให้กับบางประเทศที่เป็นสมาชิกของอียูอย่างเช่นกรีซบ้าง โดยจะอนุญาตให้มีการนำผลิตผลทางการเกษตรเข้ามาผลิตภายในรัสเซีย รัสเซียอ้างว่า แต่กฎก็คือกฎ ตามกฎของ WTO (องค์กรการค้าโลก) แล้วที่รัสเซียเป็นสมาชิกร่วมอยู่ด้วยนั้น รัสเซียไม่สามารถที่จะยกเลิกการแซงชั่นให้กับประเทศใดประเทศหนึ่งในอียูได้
แต่รัสเซียก็แย้มทางออกให้พันธมิตรของตนในอียูเกี่ยวกับข้อห้ามนั้นว่า ในกรณีนี้การขนส่งผลิตผลทางการเกษตรสามารถชดเชยได้ด้วยการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อการลงทุนในด้านการผลิตอาหารที่มีฐานการผลิตอยู่ที่รัสเซีย
เป็นไงครับความฉลาดของปูติน รัสเซียไม่ให้นำเข้าพืชผักผลไม้จากอียูเข้ามาขายโดยตรงในรัสเซีย เพราะถ้าทำอย่างนั้นรัสเซียแทบจะไม่ได้อะไรเลย นอกจากกำไรนิดหน่อยจากการเป็นพ่อค้าคนกลางขายผลไม้ เผลอๆ บริษัทนำเข้าเหล่านั้นอาจจะเป็นตัวแทนหรือนอมินีของพวกอียูเองก็ได้ ยิ่งถ้าเป็นอย่างหลังนี้แสดงว่ารัสเซียแทบจะไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากเก็บภาษีนำเข้าอย่างเดียว เผลอๆ อาจจะมีมาตรการยกเว้นภาษีนำเข้าด้วย แบบนี้ไม่ดีกับรัสเซียแน่ๆ เพราะถ้ามีการแซงชั่นอีกในอนาคตรัสเซียแย่แน่ๆ
ปูตินก็เลยแก้เกมว่า เอางี้สิ ให้ประเทศเหล่านั้นหนะ ที่เป็นเจ้าของพืชผลทางการเกษตรที่ต้องการจะขายให้รัสเซียหนะ มาสร้างโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและอาหารของตนในประเทศรัสเซียซะเลยสิ แบบนี้ก็จะเป็นทางออกของการถูกแซงชั่นทั้งจากฝั่งรัสเซียและอียูได้ด้วยนะ วิธีการนี้อย่างไร? 1.) เป็นการสร้างงานให้กับคนรัสเซีย 2.) ทำให้รัสเซียมีเทคโนโลยีใหม่ๆด้านการผลิตอาหารจากอียู 3.) ทำให้อียูต้องคิดหนักหากจะแซงชั่นรัสเซียอีก เพราะจะทำให้ธุรกิจทั้งภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับอาหารของอียูในต่างประเทศ (รัสเซีย) ได้รับผลกระทบไปด้วย 4.) รัสเซียอาจจะร่วมลงทุนในบริษัทใหม่เหล่านั้นด้วยเพื่อป้องกันการผูกขาดเรื่องราคาและกำหนดราคาขายสูงเกินไปจากบริษัทต่างประเทศ 5.) รัสเซียอาจจะส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารเหล่านั้นที่ผลิตในรัสเซียจากพืชผลทางการเกษตรของอียูไปขายทำกำไรในอียูหรือในประเทศอื่นอีกต่อหนึ่งก็ได้ เผลอๆอาจจะสามารถส่งไปขายต่อในสหรัฐฯโดยอาศัยชื่อของอียูด้วยก็ได้ และ 6.) รัสเซียสามารถดึงเงินทุนจากต่างชาติให้มาลงทุนในประเทศของตนได้อีกทางหนึ่งด้วย เอากะปูตินดิ
The Eyes
03/03/2558
--------------
http://sputniknews.com/politics/2015030 ... 46727.html
http://rt.com/business/236721-europe-gr ... sanctions/
http://sputniknews.com/business/2015030 ... 17857.html
http://tass.ru/en/economy/780308
http://rt.com/business/178888-russia-tr ... who-hurts/

บทความ

ยุทธวิธีป้องกันการถูกแซงชั่นจากอียูในอนาคตของรัสเซีย

ยุทธวิธีป้องกันการถูกแซงชั่นจากอียูในอนาคตของรัสเซีย

ผู้ใช้งานขณะนี้