https://vk.com/theeyesproject
Facebook Page : Active
https://www.facebook.com/fisont" />

อียูเรียกร้องให้ใช้ปฏิบัติการทางทหารกับกรณีนักค้ามนุษย์ผู้อพยพในลิเบีย

ปอกเปลือก ทรราช .
ทันข่าวสาร ทันโลก รับรู้ข่าวสารต่างๆที่สื่อบ้านเราไม่ค่อยได้นำเสนอกัน
เปิดโลกทัศน์ในการรับรู้ข่าวสารจากทั่วทุกมุมโลก ทันข่าว ทันโลก ทันเหตุการณ์ ตีแผ่เรื่องราวทุกๆเรื่องราวที่มีความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นในทุกๆมุมของโลก
https://vk.com/theeyesproject
Facebook Page : Active
https://www.facebook.com/fisont
ภาพประจำตัวสมาชิก
admin
Administrator
Administrator
โพสต์: 13796
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. 21 พ.ค. 2015 12:14 pm
กลุ่ม: ผู้ดูแลระบบ

อียูเรียกร้องให้ใช้ปฏิบัติการทางทหารกับกรณีนักค้ามนุษย์ผู้อพยพในลิเบีย

โพสต์โดย admin » พฤหัสฯ. 21 พ.ค. 2015 5:08 pm

ตอนนี้กระแสปัญหาผู้อพยพชาวโรฮิงญาในบ้านเรากำลังเป็นข่าวหน้าหนึ่งและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมาก พวกนักสิทธิมนุษยชนและสื่อฯสำนักต่างๆก็ออกมาเรียกร้องตามใบสั่งจากฝั่งสหรัฐฯและยุโรปให้รัฐบาลไทยอนุญาตให้ทั้งเหล่า NGO พวกเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน นักวิชาเกินและนักวิชาการกำมะลอ และสื่อฯต่างๆรับเหล่าผู้อพยพชาวโรฮิงญามาอุปการะเลี้ยงดูในบ้านในที่ดินของตัวเอง โดยรัฐบาลไทยไม่ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูให้ เพราะคนพวกนี้บอกว่าจะรับผิดชอบเองทุกอย่าง (เฮ้อ… แอ็ดมินฝันไปหรือเปล่านี่?)
ที่ยุโรปก็มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องผู้อพยพทั้งจากตะวันออกกลางและจากลิเบียในแอฟริกาเหนือเช่นกัน ซึ่งตอนนี้กลายเป็นปัญหาใหญ่ของอียู เนื่องจากเมื่อปี 2011 ทางสหรัฐฯและยุโรปใช้กองทัพทำสงครามถล่มลิเบียอ้างว่าเพื่อปลดปล่อยลิเบียจากกัดดาฟี่ โดยปลุกกระแส อาหรับอัพสปริงขึ้นมา จนสามารถโค่นล้มกัดดาฟี่และพวกได้สมใจนักประชาธิปไตยจอมปลอมทั้งหลาย สหรัฐฯและอียูบอกว่าตอนนี้ลิเบียเป็นประชาธิปไตยตามแบบฉบับที่สหรัฐฯต้องการแล้ว แต่ความวุ่นวายปั่นป่วนในลิเบียก็ไม่มีท่าทีว่าจะลดลง ลิเบียในปัจจุบันนี้กลายเป็นรัฐที่ล้มเหลว (failed state) ไปซะแล้ว เป็นที่ซ่องสุมของเหล่าผู้ก่อการร้าย บ้านเมืองไม่มีความสงบสุข เป็นกลียุคเต็มรูปแบบ
นั่นคือผลที่ตามมาจากการที่สหรัฐฯและอียูพยายามที่จะยัดเยียดประชาธิปไตยของตนให้กับประเทศอื่น ผลที่ตามมาอีกอย่างก็คือ ประชาชนชาวลิเบียหลายแสนคนต่างก็พากันอพยพเข้าไปในยุโรปทางทะเลอย่างผิดกฎหมายเช่นเดียวกันกับกรณีชาวโรฮิงญาที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ในตอนนี้
คราวนี้มาดูว่าทางสหภาพยุโรปเขาจัดการกับปัญหาคลื่นซึนามิผู้อพยพจากลิเบียในยุโรปอย่างไร เมื่อวันที่ 12 พ.ค.58 ที่ผ่านมา Federica Mogherini ประธานคณะกรรมาธิการด้านกิจการต่างประเทศของอียูได้ออกมาเรียกร้องให้สภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ผ่านแผนแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับผู้อพยพจากลิเบียโดยอนุญาตให้กองทัพจากกลุ่มประเทศยุโรป ซึ่งรวมทั้งนาวิกโยธินของสหราชอาณาจักรเข้าปฏิบัติการปราบปรามพวกแก๊งค้ามนุษย์ในลิเบียในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (ถ้าเล่นถึงการใช้กองทัพอีกรอบแบบนี้คงไม่ใช่เฉพาะเรื่องปัญหาการค้ามนุษย์เพียงอย่างเดียวหละมั๊ง? อย่าลืมนะฐานทัพของรัสเซียก็อยู่ในไซปรัสในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้วย แผนนี้กลิ่นมันแปลกๆนะนี่)
เมื่อปี 2556 นายเดวิด คาเมรอน นายกฯของอังกฤษได้เดินทางไปเยี่ยมลิเบียหลังจากที่กองทัพอังกฤษและฝรั่งเศสถล่มลิเบียในปี 2554 ซะจนราบคาบไม่เหลือชิ้นดี และกล่าวว่า "ในการสร้างลิเบียขึ้นมาใหม่นั้น คุณจะไม่สามารถหาเพื่อนใหม่ที่ดีที่สุดได้นอกจากอังกฤษ เราจะอยู่เคียงข้างคุณทุกๆก้าวตลอดเส้นทางที่คุณเดินไป" (นั่นเป็นวาทะของนักการเมือง ฟังดูดี บางคนบอกว่ามันฟังดูแปลกๆเหมือนกันนะ หนทางที่ว่านั้นจะนำไปสู่หุบเหวหรือเปล่า? พออังกฤษเดินไปส่งชาวลิเบียถึงปากเหวแล้วก็ผลักชาวลิเบียให้ตกเหวตายหรือบอกว่าโดดลงไปเลยนั่นคือสวรรค์ จากนั้นอังกฤษก็จะเดินทางกลับไปยึดที่ดินและบ่อน้ำมันของลิเบียแต่ผู้เดียวแทนอย่างนั้นหรือเปล่า?)
แต่จากการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Sputnik news นาง Nabila Ramdani นักข่าวและนักวิเคราะห์เกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลางชาวฝรั่งเศสบอกว่าตอนนี้ประเทศลิเบียกลายเป็นประเทศที่ไร้กฎหมาย (กลียุค) อย่างถาวรไปแล้ว (Libya is now in a permanent state of lawlessness) โดยนาง Nabila Ramdani กล่าวว่า "พูดสั้นๆก็คือ ลิเบียกำลังจะกลายเป็นโซมาเลียแห่งใหม่อย่างเห็นได้ชัด การเป็นรัฐที่ล้มเหลวกลายเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของพวกเราทุกคน" (ชาวตะวันตกพึ่งจะรู้เองหรอกรึ? ไปก่อสงครามในบ้านเขา พอประชาชนเขาอพยพหนีตายจากภัยสงครามและความอดอยากหลั่งไหลเข้ามาในยุโรป ชาวตะวันตกก็บอกว่าเป็นภัยคุกคามต่อตัวเองซะอย่างนั้น)
คำถามก็มีอยู่ว่าการใช้ปฏิบัติการทางกองทัพจะเป็นคำตอบได้จริงหรือ? ตามความคิดเห็นของ Ramdani นั้นเธอมองว่า การที่กองทัพของอังกฤษและฝรั่งเศสเข้าไปทิ้งระเบิดใส่ลิเบียในปี 2554 นั้นทำให้สถานการณ์แย่ลงกว่าเดิม การโค่นล้มกัดดาฟี่นั้นเป็นการกระทำแบบขาดวิสัยทัศน์และสิ่งที่เหลือก็คือปัญหาความวุ่นวาย (chaos) ที่ไม่รู้จักจบสิ้น Ramdain กล่าวว่านายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีของประเทศอังกฤษ และพวกนักการเมืองชาวตะวันตกจำเป็นต้องยอมรับความล้มเหลวของพวกเขาเอง แทนที่อังกฤษกับฝรั่งเศสจะใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ก็ควรจะร่วมมือกับรัฐบาลของลิเบียในการสร้างสถาบันและกลไกต่างๆในลิเบียให้ทำงานได้ตามปรกติขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
ทางกรุงบรัสเซลส์ (Brussels) ประเทศเบลเยี่ยมมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับกรณีนี้? กรุงบรัสเซลเสนอให้ชาติสมาชิกของสหภาพยุโรปทั้ง 28 ประเทศแบ่งโควต้าแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหาผู้อพยพจากลิเบีย ซึ่งเป็นปฏิกิริยาจากวิกฤตเรือผู้อพยพล่มในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเมื่อเร็วๆนี้ เยอรมันเห็นด้วยกับแผนดังกล่าว แต่อังกฤษปฏิเสธ (นี่หละแผนของขบวนการค้ามนุษย์แบบครบวงจรเลย ประเทศต้นทางกินหัวคิว ประเทศปลายทางก็รับไปกักบริเวณไว้ในค่ายผู้อพยพต่อไป กินกันเป็นทอดๆ)
แผนของเบลเยี่ยมก็คือให้อียูรับผู้อพยพเหล่านี้ แต่ไม่ได้บอกให้ชัดเจนว่าจะเอามากักขังไว้ในสถานที่เฉพาะในค่ายผู้ลี้ภัยและผู้อพยพ หรือว่าจะให้สัญชาติอียูแก่ผู้อพยพเหล่านั้นและหางานทำให้ ซึ่งปัจจุบันนี้มีผู้อพยพจากทั้งตะวันออกกลางและลิเบียถูกจำกัดให้อยู่แต่เพียงในค่ายผู้อพยพเป็นจำนวนหลายแสนคนทั่วยุโรป แน่นอนว่าถ้าทำตามที่กรุงบรัสเซลส์เสนอ ก็จะมีผู้อพยพจากลิเบียและที่อื่นไหลเข้าไปในยุโรปโดยไม่มีวันหมดสิ้น แล้วยุโรปจะรับเลี้ยงไหวรึ?
ปัญหาการต่อต้านผู้อพยพจากต่างถิ่นที่ว่ามาแย่งที่ทำกิน แย่งงานแย่งอาชีพของคนท้องถิ่นชาวยุโรปก็จะลุกลามใหญ่โตขยายวงกว้างออกไปอีก กลุ่มต่อต้านชาวต่างชาติ และกลุ่มเหยียดผิว กลุ่มชาตินิยม อย่างพวกเพจิด้าในเยอรมันนีและกลุ่ม EDL ในอังกฤษจะมีเพิ่มมากขึ้น ปัญหาสังคมต่างๆก็จะตามมา นี่คือการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุทั้งนั้น สาเหตุก็มาจากการกระทำของสหรัฐฯและอียูเองนั่นแหละที่เที่ยวไปก่อปัยหาวุ่นวายในประเทศอื่น จนมาซึ่งปัญหาภายในประเทศของตนอย่างที่เห็นอยู่นี้
ทางอังกฤษกล่าวว่า อังกฤษขอปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมในแผนใดๆในอนาคตเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยที่ไม่ใช่ชาวยุโรปที่พยายามข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมาอย่างมีชีวิต (กรรม!)
นาย Viktor Orban นายกฯของฮังการีกล่าวตอบโต้อังกฤษและท่าทีของยุโรปว่า "แนวความคิดของพวกยุโรปบางคนที่อนุญาตให้ผู้อพยพเข้าสู่ประเทศของตน จากนั้นก็กระจายพวกเขาไปยังประเทศอื่นๆที่เป็นสมาชิกของอียูนั้นเป็นความคิดของคนเสียสติ และไม่ยุติธรรม" (distributing them among other member states is a mad and unfair idea) (ใช่เพราะว่าฮังการีและประเทศอื่นบางประเทศในยุโรปไม่ได้เห็นด้วยหรือไม่ได้ไปก่อสงครามถล่มลิเบียด้วย ใครสร้างปัญหานี้ขึ้นมา คนนั้นก็รับไปเลี้ยงดูเอาเองสิ เรื่องอะไรจะต้องกระจายความรับผิดชอบไปให้ประเทศอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย?)
นักวิเคราะห์มองว่าการที่อียูเสนอให้ใช้กำลังทางทหารกับกรณีผู้อพยพจากลิเบียนี้เป็นคำตอบที่ผิดและยิ่งจะเป็นการขยายปัญหาออกไปอีก โดยกล่าวว่า "ภายใต้นโยบายนี้ เรือลำใดๆอาจจะกลายเป็นเป้าก็ได้ และการแทรกแซงด้วยกำลังทางกองทัพจะแยกแยะได้อย่างไรว่าเรือลำไหนเป็นเรือประมงหรือเป็นเรือค้ามนุษย์ มันจะนำไปสู่การบาดเจ็บล้มตายของพลเรือน"
นักวิเคราะห์ที่ทำงานวิจัยเกี่ยวกับกรณีผู้อพยพจากลิเบียกล่าวว่า "พวกเขามักจะไม่มีเอกสารการเดินทางติดตัวมาด้วย เนื่องจากถูกขโมยหรือถูกยึดโดยแก๊งค้ามนุษย์ (human traffickers) และพวกลักลอบส่งผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย (human smugglers) ดังนั้นพวกเขาจะไม่สามารถออกจากลิเบียโดยเส้นทางปกติได้ ซึ่งกรณีเช่นนี้เป็นการบังคับให้พวกเขาต้องเดินทางทางทะเลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"
ปัญหาก็คือว่าแล้วไอ้ตัวเป้งๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ในยุโรปนี้เป็นใคร ถ้าไม่มีส่วนรู้เห็นเป็นใจจากเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในยุโรปหรือในองค์ระหว่างประเทศ พวกนี้จะทำไม่ได้โดยง่ายแน่นอน แต่ดูเหมือนว่าทางยุโรปพยายามที่จะไม่พูดถึงกรณีนี้ หรือไม่ติดตามสืบหาผู้มีส่วนร่วมในขบวนการค้ามนุษย์ในยุโรป หรือว่าสืบแล้วไปเจอตอเข้าให้จึงไม่กล้าออกมาเปิดเผยก็ไม่อาจจะรู้ได้
คราวนี้มามองดูปัญหาเดียวกันนี้ในเอเซียบ้าง ส่วนเรื่องเกี่ยวกับปัญหาการค้ามนุษย์ในเอเซียนั้น ตอนแรกทางสหรัฐฯและอียูก็โจมตีไทยเรื่องสิทธิมนุษยชน ในอุตสาหกรรมการประมงของไทย เพื่อหาเรื่องแบนอาหารทะเลของไทยไม่ให้เข้าไปตีตลาดในอียูได้ เนื่องจากเขาไม่สามารถส่งออกอาหารทะเลของเขาไปยังรัสเซียได้ ทำให้ราคาอาหารทะเลของเขาตกต่ำและล้นตลาด ต่อมาอียูก็หันมาโจมตีไทยเรื่องแรงงานเถื่อนในอุตสาหกรรมการประมงของไทยอีก จุดมุ่งหมายก็เรื่องการกีดกันทางการค้านี่แหละ พอไทยเริ่มปราบปราบการค้ามนุษย์อย่างหนัก ทำให้ขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติเดือดร้อน พวกนี้ก็ยุให้ต่างชาติและสื่อฯสมองไหลในไทยหันมาเล่นงานรัฐบาลไทยทางอ้อมโดยเล่นข่าวปัญหาการอพยพของชาวโรฮิงญาเป็นหลักในช่วงนี้
เนื่องจากรัฐบาลไทยไม่รับผู้อพยพชาวต่างชาติที่แอบหนีเข้าเมืองไทยอย่างผิดกฎหมายหรือใช้เป็นทางผ่านไปยังประเทศปลายทาง พวกขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติเหล่านั้นได้รับความเดือดร้อน ก็พากันออกมากดันรัฐบาลไทยให้รับดูแลชาวโรฮิงญาเหล่านั้นแทนโดยใช้เงินภาษีของประชาชนชาวไทยในการดูแล อ้างว่าเพื่อเป็นการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แต่ทั้ง UNHCR และสหรัฐฯและองค์การด้านสิทธิมนุษยชนรวมทั้งสื่อฯต่างๆที่ออกมาเรียกร้องนั้นไม่กล้าที่จะรับผู้อพยพชาวโรฮิงญาเหล่านั้นเข้าไปไว้ในบ้านหรือประเทศของพวกเขาเลย
หากไทยรับเข้ามา วันหนึ่งทางสหประชาชาติก็จะออกมาเรียกร้องสิทธิ์ต่างๆให้กับชาวโรฮิงญาเหล่านั้นในประเทศไทย อย่างที่ทำให้เมียนมาร์ (พม่า) เช่นเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าออกบัตรประจำตัวประชาชนให้พวกเขา เรียกร้องสิทธิในดินแดนที่ทำกิน เรียกร้องสวัสดิการต่างๆเช่นเดียวกับคนพม่า ในขณะที่ตะวันตกและสหรัฐฯกลับไม่ทำอย่างนี้ในประเทศของตัวเองบ้าง แล้วอย่างนี้ไทยจะรับไหวหรือ? ทำไมไทยจะต้องมาแก้ไขปัญหาที่ไทยไม่ได้สร้างแต่แรกและไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหาด้วย? ส่วนกรณีที่ว่ามีคนไทยบางกลุ่มมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรงฮิงญานั้นก็ใช้กระบวนการทางกฎหมายจัดการไป แต่เรื่องอะไรที่จะต้องผลักภาระการดูแลคนเหล่านั้นมาให้ประเทศไทยด้วย?
The Eyes
16/05/2558
-----------
http://sputniknews.com/europe/20150512/1022036601.html
http://sputniknews.com/europe/20150513/1022100238.html
http://sputniknews.com/europe/20150515/1022187084.html
http://sputniknews.com/europe/20150515/1022185541.html
แนบไฟล์
11101827_1668486350038165_2627275551222777873_n.jpg
11101827_1668486350038165_2627275551222777873_n.jpg (45.98 KiB) เปิดดู 397 ครั้ง
11209484_1668486303371503_3956831446436376175_n.jpg
11209484_1668486303371503_3956831446436376175_n.jpg (44.75 KiB) เปิดดู 397 ครั้ง
11270224_1668486343371499_7172038721251946260_o.jpg
11270224_1668486343371499_7172038721251946260_o.jpg (133.49 KiB) เปิดดู 397 ครั้ง
10547970_1668486330038167_8247172152932551402_o.jpg
10547970_1668486330038167_8247172152932551402_o.jpg (129.12 KiB) เปิดดู 397 ครั้ง



ย้อนกลับไปยัง

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: 2 และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน

cron