อินเดียรอคำขอโทษจากอังกฤษมา 103 ปี จากเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอินเดีย 1,500 คนบาดเจ็บ 3,000 คน

ข่าวที่น่าตกใจ ที่น่าคิดตาม ที่น่าจดบันทึกไว้ ทั้งแง่ดีและแง่ร้าย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมนอกโลกด้วย
ภาพประจำตัวสมาชิก
admin
Administrator
Administrator
โพสต์: 13569
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. 21 พ.ค. 2015 12:14 pm
กลุ่ม: ผู้ดูแลระบบ

อินเดียรอคำขอโทษจากอังกฤษมา 103 ปี จากเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอินเดีย 1,500 คนบาดเจ็บ 3,000 คน

โพสต์โดย admin » อาทิตย์ 24 เม.ย. 2022 7:40 am

บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีผมยุ่ง ของอังกฤษ .. แตะมือรับช่วงต่อจาก ปธน.โจ ไบเดน ซึ่งเริ่มเบลอ ๆ เพี้ยน ๆ

บอริส จอห์นสัน เดินทางไปยังประเทศอินเดีย เพื่อขอให้อินเดียหันมาร่วมมือกับชาติตะวันตก ขอให้อินเดียเลิกซื้อน้ำมันหรือทำธุรกรรมการค้ากับรัสเซีย

หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ขอให้อินเดียร่วมคว่ำบาตร ตามที่สหรัฐและอังกฤษทำอยู่

□ คำขอในทางการทูต ถ้ามาเพียงลำพัง ก็อาจจะหมายถึงการขอร้อง ..
□ แต่ถ้าก่อนหน้านี้ ทางนายโจ ไบเดน ได้เดินทางมาพูดเรื่องนี้แล้ว และอังกฤษได้ตามมาพูดเสริมอีกครั้ง

การทูตนัยแบบนี้ หมายถึง "การกดดัน"

ผลการเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายคงไม่สำเร็จ เพราะอินเดียต้องคำนึงผลประโยชน์ประเทศอินเดีย เหนือผลประโยชน์ของชาติตะวันตก

⭐ ** การทำให้ประชาชนตัวเองเดือนร้อน เพื่อให้เพื่อนที่ไม่สนิทและชอบเอาเปรียบ เกิดความพึงพอใจ คงไม่ใช่วิสัยการเป็นผู้นำที่ดี

ขณะเดียวกันกลับปรากฏข่าวออกมาว่า ..
นเรนทระ โมที นายกรัฐมนตรีอินเดีย ยังคงทวงคำขอโทษจากรัฐบาลอังกฤษ ..
ทวงคำขอโทษมาเป็นเวลาถึง 103 ปีแล้ว ในกรณีทหารอังกฤษ “สังหารหมู่ชาวอินเดีย ที่จลิยานวาลาบาค” เมื่อปี ค.ศ. 1919

ในปีนั้น .. ค.ศ. 1919 ..
ชาวอินเดียและประเทศอินเดีย ยังเป็นอาณานิคมอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิอังกฤษ ภายใต้กฎหมายของอังกฤษ
รัฐบาลอังกฤษแฝงตัวปกครองผ่านบริษัทที่เข้ามาทำการค้า ในชื่อว่า “บริษัทอินเดียตะวันออก” หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า “บริติชอินเดีย”

เวลานั้น ผู้ปกครองบริติชอินเดีย ได้ออกกฎหมายลิดรอนสิทธิคนอินเดียหลายประการ ทำให้เกิดความไม่พอใจและมีประท้วงขึ้น ทหารอังกฤษเข้าจับกุมผู้นำการประท้วงไป 2 คน จนทำให้เกิดกระแสต่อต้าน

ทำให้ชาวอินเดียจำนวนหลายพัน นัดรวมตัวประท้วงที่ สวนสาธารณะจลิยานวาลาบาค รัฐปัญจาบ เรียกร้องให้ จักรวรรดิอังกฤษ ปล่อยตัวผู้นำ 2 คนที่ถูกจับไป

ในวันเวลาเดียวกัน สถานที่เดียวกัน คือในวันที่ 13 เมษายน ณ สวนสาธารณะจลิยานวาลาบาค สถานที่ที่ชาวอินเดียรวมตัวประท้วงให้ปล่อยตัวผู้นำท้องถิ่นของพวกเขา

13 เมษายน วันนั้นเป็นวันดี เป็นวันขึ้นปีใหม่ของศาสนาซิกข์ ของชาวปัญจาบ , ชาวซิกข์เรียกวันนั้นว่า “วันเวสาขี”
จึงทำให้มีการรวมตัวกันแสดงออกทางศาสนา เฉลิมฉลองมากกว่าปกติ ณ สวนสาธารณะจลิยานวาลาบาค เช่นเดียวกัน เป็นจำนวนเกือบ 20,000 คน

ทางด้านบริติชอินเดีย ได้ส่งนายพลเรจินอลด์ ไดเออร์ ที่ไม่สนใจวิเคราะห์เหตุการณ์หรือใส่ใจในรายละเอียดเรื่องราวใด ๆ

มีคำสั่งให้เข้าไปสลายฝูงชน ด้วยการสาดกระสุนเข้าฝูงชนหลายพันนัด ทำให้ชาวอินเดียเสียชีวิตกว่า 1,500 คน และบาดเจ็บมากกว่า 3,000 คน

การกระทำอันเหนือกว่ากฎหมายของ จักรวรรดิอังกฤษ ในครั้งนี้ เป็นชนวนหนึ่งที่ก่อให้เกิดการดื้อแพ่งของชาวอินเดียต่ออำนาจของจักรวรรดิอังกฤษในเวลาต่อมา
จนทำให้ผู้คนต่างเข้าร่วมกับมหาตะมะ คานธี เพื่อเรียกร้องเอกราช

เมื่อนายพลเรจินอลด์ ไดเออร์ เดินทางกลับจักรวรรดิอังกฤษ เขาไม่ถูกลงโทษใดๆเลยจากการกระทำดังกล่าว ทั้งยังได้รับมอบดาบประดับเพชร ที่ข้อความจารึกให้ว่า “ผู้กอบกู้ปัญจาบ”

อันประหนึ่งเสมือนวีรบุรุษ ผู้ออกคำสั่งสาดกระสุดยิงใส่ร่างชาวอินเดีย เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เชิดชู


นับจากวันนั้น จนวันนี้ ..
จนอินเดียมีเอกราชแล้ว และเป็นอิสระในการปกครองของตนเอง
F6dYOdHsjO_6XkuqrFnqK74PgIivJyAt2mtnn09l6-OOVWhKDSBpwRUrmWoXNey10Vp2D4epyBmsgsw0Q-kDqN7p.jpg
F6dYOdHsjO_6XkuqrFnqK74PgIivJyAt2mtnn09l6-OOVWhKDSBpwRUrmWoXNey10Vp2D4epyBmsgsw0Q-kDqN7p.jpg (70.6 KiB) เปิดดู 486 ครั้ง

แต่ก็เป็นเวลาถึง 103 ปี ..
ที่ชาวอินเดีย รอการขอโทษจากรัฐบาลอังกฤษ แบบ “สุภาพบุรุษ” ตามที่ชนชาติอังกฤษชอบเรียกตนเองแบบนั้น
Padipon Apinyankul

✍️✍️✍️



ย้อนกลับไปยัง

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: 1 และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน