เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในอเมริกามีช่องโทรทัศน์ใหญ่เจ้าหนึ่งคือ CBS เชิญเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐอเมริกามาสัมภาษณ์ออกรายการ “เฟซเดอะเนชั่น - Face the Nation” ครับ
https://youtu.be/tOK2LgrRVr4
การสัมภาษณ์นี้มีความยาว 10 นาที เนื้อหาคำถามก็อยู่ในประเด็นที่คนอเมริกันกำลังสนใจคือ “จีนมีจุดยืนอย่างไรต่อรัสเซียในกรณีสงครามยูเครน”
คลิปนี้เป็นคลิปที่มีคนเข้ามาชมมากที่สุดคลิปหนึ่งของช่อง CBS และมีคนเข้ามาแสดงความเห็นกันล้นหลาม ซึ่ง 99% ของคอมเม้นท์จะด่าและตำหนิผู้ดำเนินรายการหญิงอย่างรุนแรงว่า แสดงกิริยาท่าทางไม่ให้เกียรติทูตจีนเลยและคอยพูดแทรกเวลาที่ทูตจีนกำลังตอบคำถาม
ผู้ดำเนินรายการ (Moderator) สาวคนนี้เธอชื่อ “มากาเร็ต เบรนแนน - Magaret Brennan” ครับ ส่วนท่านเอกอัครราชทูตจีนนั้นชื่อว่า “ฉิน กัง - Qin Gang”
ผมเข้าไปนั่งชมคลิปนี้ก็เห็นด้วยกับคนส่วนใหญ่ เพราะผู้คนอเมริกันนั้นเขาอยากฟังคำพูดของทูตจีน ไม่ได้อยากฟังเธอพูดแทรก ซึ่งก็มีคนนั่งนับว่ามากาเร็ตพูดแทรกท่านทูตทั้งหมด 20 ครั้งในการสัมภาษณ์เพียง 10 นาที
อันนี้ก็ต้องยอมรับว่าทูตจีนวางตัวได้นิ่งสงบและตอบคำถามได้ดีสมกับการเป็นทูต ผมถอดความฉบับเต็มมาให้ดังนี้ครับ (ไม่อยากย่อ เพราะเกรงจะผิดความหมาย)
.
.
.
มากาเร็ต : “ปธน.ไบเดนได้ขอให้ทางปักกิ่งตัดความช่วยเหลือใดๆต่อวลาดิเมียร์ ปูติน แต่จีนจะยังคงตั้งใจที่จะเป็นที่พึ่งให้กับปูตินใช่ไหม?”
ท่านทูต : “เมื่อวันศุกร์ ปธน.สี จิ้นผิงและปธน.ไบเดน ได้พูดคุยกันผ่านทางวิดีโอคอลล์ เป็นการคุยกันอย่างจริงจังและสร้างสรรค์ ปธน.สี จิ้นผิง ได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่า จีนสนับสนุนสันติภาพและไม่เห็นด้วยกับสงคราม จีนเป็นชาติที่รักสันติ เราไม่ต้องการเห็นสถานการณ์ในยูเครนมาอยู่ในจุดนี้และเราเรียกร้องให้หยุดยิงโดนทันที ในขณะเดียวกันเราสนับสนุนการพูดคุยเพื่อสันติภาพและเราได้ส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมไปให้…”
มากาเร็ตพูดแทรก : “โดยการส่งเงินและอาวุธไปให้รัสเซีย”
ทูตจีน : “มีการบิดเบือนข้อมูลว่าจีนส่งความช่วยเหลือทางทหารไปให้รัสเซีย และเราขอปฏิเสธข่าวนี้ จีนส่งอาหาร เวชภัณฑ์ ถุงนอนและอาหารเด็กไป ไม่มีการส่งอาวุธและยุทธภัณฑ์ไปให้ฝ่ายใด เรารังเกียจสงครามและต้องการลดระดับความขัดแย้งนี้ลง”
มากาเร็ต : “เมื่อวานนี้รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียได้แถลงว่า จากสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มอสโควและปักกิ่งมีแต่จะใกล้ชิดกันมากขึ้น เขาพูดถูกไหมคะ?”
ทูตจีน : “รัสเซียและจีนนั้นมีความไว้เนื้อเชื่อใจกันมาหลายปีผ่านทางเหตุการณ์ต่างๆมากมาย เรามีชายแดนติดกันยาวถึง 4000 กิโลเมตร มีผลประโยชน์ร่วมกันหลายอย่าง ความไว้ใจต่อกันนี้ทำให้จีนอยู่ในฐานะพิเศษกับรัสเซียในวงการต่างประเทศ”
มากาเร็ต : “นั่นแหละที่ทำเนียบขาวถึงได้บอกว่า จีนอยู่ในฐานะที่มีอำนาจจะต่อสายโทรศัพท์ไปหาวลาดิเมียร์ ปูติน ปธน.สี จิ้นผิงของคุณได้บอกให้ปูตินยุติการรุกรานนี้หรือไม่ และคุณประณามการกระทำนี้ไหม?”
ทูตจีน : “จริงๆแล้ว ในวันที่สองที่รัสเซียเริ่มการปฏิบัติการทางทหารนั้น ปธน.สี จิ้นผิง ก็ได้คุยกับปธน.ปูตินเพื่อขอให้ลองคิดเรื่องพูดคุยอย่างสันติกับยูเครน ซึ่งปธน.ปูตินก็ได้รับฟัง และได้มีการพูดคุยอย่างสันติกันต่อเนื่องมาอีกสี่ครั้งด้วยกัน…”
มากาเร็ตพูดแทรก : “แล้วคุณรู้ไหมว่า…”
ทูตจีน : “ขอผมพูดต่อก่อน ความสัมพันธ์ที่ไว้วางใจต่อกันระหว่างจีนกับรัสเซียนั้นไม่ใช่เรื่องที่ว่าใครจะบอกว่าใครเป็นคนผิด แต่นี่คือสิ่งมีค่าในความพยายามของนานาชาติที่จะแก้ปัญหานี้ในทางสันติ จีนคือส่วนหนึ่งของทางออก ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของปัญหา”
มากาเร็ต : “ขอฉันทำความเข้าใจให้เคลียร์สักนิด คุณกำลังบอกว่าปักกิ่งจะไม่ให้ความช่วยเหลือทางการเงินกับมอสโควเพื่อหนุนให้สงครามนี้ยืดเยื้อต่อไปใช่ไหม?”
ทูตจีน : “จีนยังคงมีความร่วมมือทางการเงิน การค้า การพลังงานกับรัสเซียไปตามปกติ”
มากาเร็ตแทรก : “งั้นก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร”
ทูตจีน : “นี่คือการทำธุรกิจตามปกติระหว่างสองชาติที่มีเอกราชเป็นของตนเอง เป็นไปตามกฎหมายนานาชาติและระเบียบขององค์การการค้าโลก”
มากาเร็ตแทรก : “งั้นเรามาพูดเรื่องกฎหมายนานาชาติกัน เมื่อสี่วันก่อนศาลนานาชาติได้สั่งให้รัสเซียยุติการปฏิบัติทางทหาร จีนได้งดออกเสียง และมติคือ 13:2 ซึ่งชาติเดียวที่ยืนอยู่เคียงข้างรัสเซียก็คือจีน จีนมีทีท่าให้อภัยรัสเซียมากกว่าจะประณามรัสเซีย” (ขอให้ดูกิริยาท่าทางของมากาเร็ตในตอนนี้)
ทูตจีน : “จีนได้สังเกตการณ์และมีบทสรุปด้วยความคิดของจีนเองตามเรื่องราวสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จีนไม่เห็นด้วยกับเป้าหมายและหลักการของสหประชาชาติ รวมไปถึงความเคารพในเอกราชของชาติต่างๆรวมทั้งยูเครนด้วย ในอีกทางหนึ่งนั้นจีนได้มองเห็นถึงความซับซ้อนทางประวัติศาสตร์ในเรื่องของยูเครน”
มากาเร็ตแทรก : “แล้วคุณรู้ไหมว่ารัสเซียมีทหาร 150,000 นายประจำการอยู่ตามแนวชายแดนจีน”
ทูตจีน : “เราเป็นสองชาติที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน....”
มากาเร็ตแทรกอีก : “ก็นั่นแหละคุณมีทหาร 150,000 คนอยู่ตรงชายแดนเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรต่อกันแล้วก็จะส่งทหารเข้าไปในประเทศเขา เมื่อเอาทุกอย่างมาคิดรวมกันแล้ว ทำไมจีนจึงไม่ประณามรัสเซียว่านี่คือการรุกราน”
ทูตจีนส่ายหน้าแล้วกล่าววรรคทอง : “คุณอย่าทำตัวไร้เดียงสานักเลย (Don’t be naive) การประณามใส่กันนั้นไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไร ผมจะแปลกใจมากกว่าถ้าเกิดรัสเซียยอมเลิกทัพเพราะถูกประณาม”
มากาเร็ต : “เขาจะยอมถอยทัพเมื่อปธน.ของคุณโทรศัพท์ไปขอให้เขาถอยไหมล่ะ? ปธน.ของคุณได้บอกปูตินไหมล่ะ?”
ทูตจีน : “เราได้บอกแล้วและเราจะสนับสนุนการพูดคุยอย่างสันติภาพต่อไป การประณามกันนั้นไม่ได้ช่วยอะไร เราต้องการสติปัญญา ความกล้าหาญ และการทูตที่ดี”
มากาเร็ต : “เซเลนสกี้อยากจะคุยกับปูติน แต่เซเลนสกี้อยู่ในบังเกอร์ ส่วนปูตินยังคงเคลื่อนทัพสนับสนุนสงครามต่อไป คุณไม่มีวันจะได้การทูตที่ดีเมื่อมีแค่ฝั่งเดียวที่อยากจะเจรจา”
ทูตจีน : “จีนมีความสัมพันธ์อันดีทั้งกับรัสเซียและยูเครน จีนรักษาการสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกาและยุโรป จีนสามารถเข้าถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในวิกฤติครั้งนี้ และบทบาทสำคัญของจีนในครั้งนี้จะสามารถช่วยสร้างสันติภาพ....”
มากาเร็ตแทรก : “ฉันได้ยินแต่คุณพูดซ้ำๆ ฉันอยากเข้าใจว่าจีนจะช่วยอะไรใครได้ถ้าจีนไม่ประณามรัสเซีย ไม่ตัดหางปูตินในสงครามนี้ สงครามนี้ทำให้เศรษฐกิจโลกปั่นป่วน ทำให้ราคาอาหารและพลังงานพุ่งขึ้น ในเมื่อจีนต้องการเสถียรภาพแล้วทำไมจีนไม่ทิ้งปูตินซะ”
ทูตจีน : “ผมได้กล่าวชัดเจนแล้วว่าเอกราชและดินแดนของชาติใดๆล้วนควรต้องได้รับการนับถือและคุ้มครอง แต่ก็เช่นเดียวกันที่ว่าการประณามกันนั้นไม่ได้ช่วยอะไร และสิ่งที่เราต้องการคือการทูตที่ดีบนพื้นฐานของสติปัญญา ความกล้าหาญและมองไปข้างหน้าถึงความปลอดภัยของยุโรป....”
และสุดท้ายมากาเร็ตก็ตัดพูดแทรกในเรื่องผมไม่คิดว่าเธอจะพูดขึ้นมา... “ฉันขอพูดก่อนเราจะจบในวันนี้ ในเมื่อคุณพูดถึงความสำคัญของสหประชาชาติและคุณเคารพในเรื่องต่างๆนี้ขึ้นมา ฉันขอพูดถึงเรื่องสิทธิมนุษยชนของชาวอุยกูร์กว่าล้านคนที่ถูกขังอยู่ในสถานที่ลับๆ ซึ่งผู้แทนขององค์กรสิทธิมนุษยชนจะไปเยือนจีนในอีกไม่นานนี้ คุณจะปล่อยให้ผู้แทนสิทธิฯเหล่านี้เข้าไปที่อุยกูร์โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆหรือไหม?”
ทูตจีนส่ายหน้า : “เราขอปฏิเสธในเรื่องนี้อย่างแข็งขัน ไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนใดๆในซินเกียงทั้งสิ้น”
มากาเร็ตพยายามแทรก : “แล้วคุณจะให้เข้าไปโดยไม่มีข้อจำกัดใดๆใช่ไหมหรือยังไง?”
แล้วรายการก็ตัดจบไปดื้อๆอย่างนั้นแหละ.....
.
.
.
ผมดูจนจบแล้วก็คิดว่า “น่าเสียดายแทนคนอเมริกัน แทนที่เขาจะได้มีโอกาสฟังทูตจีนพูดชัดๆเต็มๆสักที ก็ต้องมาเจอคนสัมภาษณ์แย่ๆแบบนี้”
อยากให้ลองชมคลิปนี้ดูครับแล้วพิจารณาตามความคิดของท่านเอง
ผมชอบที่มีผู้ชมคนหนึ่งคอมเม้นท์ไว้สั้นๆว่า
….This interview is what I would call “Wild West” vs “Wise East”….